วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

อุปปาตะสันติแปล

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ


ขอความนอบน้อมของข้าพเจ้าจงมีแด่พระผู้มีพระภาค
อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


คันถารัมภะ
(คำเริ่มต้นคัมภีร์)



(ก) สุทุททะโส อะยัง ธัมโม โลกัตถัง ชินะเทสิโต
มะหาสันติกะโร โลเก สัพพะสัมปัตติทายะโก


ธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ เพื่อประโยชน์ของสัตว์โลก
เป็นธรรมที่เห็นได้ยากยิ่ง สำหรับธรรมที่จะกล่าวต่อไปนี้
เป็นธรรมที่สามารถกระทำความสงบอันประเสริฐ
และสามารถประทานซึ่งสมบัติทั้งปวง


(ข) สัพพุปปาตูปะสะมะโณ ภูตะยักขะนิวาระโณ
อะกาละมัจจุสะมะโณ โสกะโรคะวินาสะโน


เป็นเครื่องสงบเหตุร้ายทั้งปวง เป็นเครื่องป้องกันอมนุษย์และยักษ์
เป็นเครื่องระงับความตายก่อนกำหนดเวลา
เป็นเครื่องขจัดความเศร้าโศกและโรค


(ค) ปะระจักกะปะมัททะโน รัญโญ วิชะยะวัฑฒะโน
สัพพานิฏฐะหะโร สันโต ธัมมัง วักขามิ ภูตะโต


เป็นเครื่องย่ำยีกำลังของข้าศึก เป็นเครื่องจำเริญชัยชนะแด่พระราชา
เป็นเครื่องนำสิ่งที่ไม่น่าปรารถนาทั้งปวงออกไป
เป็นธรรมอันประเสริฐ

ข้าพเจ้า (พระสีละวังสะมหาเถระ) จักแสดงคุณธรรมเช่นนั้น
ตามสภาพที่เป็นจริง


(ฆ) วัตถุตตะยัสสะ โย ยัตถะ สังวัณเณติ คุณุตตะเม
ตัสสะ ตัตถะ สุขาโรคฺยะ- โสตถิโย โหนติ สัพพะทา


ณ ที่ใด มีผู้กล่าววาจาสรรเสริญพระคุณอันประเสริฐของพระรัตนตรัย
ด้วยจิตที่เลื่อมใส ณ ที่นั้น ความสุข ความสบาย และความสวัสดี
ย่อมมีแก่ผู้นั้นตลอดกาลทุกเมื่อ
(พระพุทธเจ้าในอดีต ๒๘ พระองค์)
(ในสารมัณฑกัป ๔ พระองค์)



๑. ตัณหังกะโร มะหาวีโร สัพพะโลกานุกัมปะโก
วันตะสังสาระคะมะโน สัพพะกามะทะโท สะทา


พระตัณหังกร สัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้แกล้วกล้ามาก
ผู้อนุเคราะห์สัตว์โลกทั้งปวง
ผู้คลายตัณหาอันเป็นเหตุท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏได้แล้ว
ผู้ประทานสิ่งที่น่าปรารถนาทั้งปวงให้ ในกาลทุกเมื่อ


๒. สัพพาภิภู สัพพะวิทู สัพพะเทวะคะรุตตะโม
สัพพาสะวะปะริกขีโณ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


ผู้ทรงครอบงำธรรมทั้งปวง ทรงรู้แจ้งธรรมทั้งปวง
ทรงเป็นครูผู้ยอดเยี่ยมของมนุษย์และเทวดาทั้งปวง
ทรงสิ้นอาสวะทั้งปวงแล้ว
โปรดประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด


๓. วะระลักขะณะสัมปันโน เมธังกะโร มะหามุนิ
ชุตินธะโร มะหาสิรี สุวัณณะคิริสันนิโภ


พระจอมมุนีพระนามว่า เมธังกร
ผู้ถึงพร้อมแล้วด้วยพระลักษณะอันเลิศ
ผู้ทรงไว้ซึ่งพระรัศมี ผู้ทรงมีพระสิริยิ่งใหญ่ รุ่งเรืองดุจสุวรรณคีรี


๔. ทิพพะรูโป มะหากาโย มะหานาโถ มะหัพพะโล
มะหาการุณิโก สัตถา มะหาสันติง กะโรตุ โน


ผู้ทรงมีพระรูปเพียงดังท้าวมหาพรหม
มีพระวรกายอันประกอบด้วยมหาปุริสลักษณะ
ทรงเป็นที่พึ่งอันประเสริฐมีพระกำลังมาก
ทรงประกอบด้วยพระมหากรุณา ทรงเป็นพระศาสดา
โปรดประทานความสงบอันยิ่งใหญ่ แก่พวกข้าพระองค์เถิด


๕. มะหาโมหะตะมัง หันตฺวา โย นาโถ สะระณังกะโร
เทวาเทวะมะนุสสานัง โลกานัญจะ หิตังกะโร


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า สรณังกร
ทรงเป็นที่พึ่ง ทรงกำจัดความมืดมนคืออวิชชาได้แล้ว
ทรงกระทำประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลก
กล่าวคือเหล่าทวยเทพ อสูร และมนุษย์ทั้งหลาย


๖. พฺยามัปปะภาภิรุจิโต นิโคฺรธะปะริมัณฑะโล
นิโคฺรธะปักกะพิมโพฏโฐ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า สรณังกร พระองค์นั้น
ผู้ทรงรุ่งเรืองด้วยพระรัศมีแผ่ออกไปหนึ่งวาโดยรอบ
ผู้ทรงมีพระวรกายเป็นปริมณฑลดุจต้นนิโครธ
(ความสูงของกายเท่ากับความยาวของวา)
ผู้ทรงมีพระโอฏฐ์แดงเรื่อดุจผลตำลึงสุก ที่ต้นนิโครธ
(นิสสยะฉบับพม่า แปลว่า ดุจผลนิโครธสุก)
โปรดประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด


๗. อะสีติระตะนุพเพโธ ทีปังกะโร มะหามุนิ
ปะภา นิทธาวะเต ตัสสะ ฐาเน ทฺวาทะสะ โยชะเน


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า ทีปังกร
มีพระวรกายสูงแปดสิบศอก ทรงเป็นพระมหามุนี
พระรัศมีของพระองค์แผ่ออกไปในที่สิบสองโยชน์


๘. วัสสัสสะตะสะหัสสานิ ฐัตฺวา โลเก วินายะโก
โลกาโลกะกะโร สัตถา สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระองค์ทรงพระชนม์อยู่ในโลกหนึ่งแสนปี
ทรงนำเวไนยสัตว์สู่พระนิพพาน
ทรงเป็นพระศาสดาผู้ประทานแสงสว่างแก่โลก
โปรดประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด
(ในสารกัป ๑ พระองค์)


๙. อัฏฐาสีติหัตถุพเพโธ โกณฑัญโญ นามะ นายะโก
สัพพะธัมเมหิ อะสะโม สัพพะปาระมิตาคะโม


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า โกณฑัญญะ
มีพระวรกายสูงแปดสิบแปดศอก ทรงเป็นผู้นำ
ทรงเป็นผู้ไม่มีบุคคลเสมอด้วยธรรมทั้งปวง
ทรงถึงความเป็นผู้มีบารมีทั้งปวง


๑๐. วัสสัสสะตะสะหัสสานิ อายุ ตัสสะ มะเหสิโน
โมเจตุ โส สัพพะภะยา สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


ทรงเป็นพระผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ มีพระชนมายุหนึ่งแสนปี
ขอพระองค์โปรดเปลื้องพวกข้าพระองค์ ให้พ้นจากภัยทั้งปวง
โปรดประทานความสวัสดีแก่พวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด

(ในสารมัณฑกัป ๔ พระองค์)



๑๑. อัฏฐาสีติระตะนานิ อัจจุคคะโต ชุตินธะโร
มังคะโล นามะ สัมพุทโธ นะวุติสะหัสสายุโก


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า มังคละ
ทรงมีพระวรกายสูงแปดสิบแปดศอก
ทรงไว้ซึ่งพระรัศมี ทรงมีพระชนมายุเก้าหมื่นปี


๑๒. ฉัพพัณณะรังสิโย ทะสะ สะหัสสะโลกะธาตุโย
ผะรันตา ตัสสะ ฉาเทนติ เอสะ โสตถิง กะโรตุ โน


พระฉัพพรรณรังสีของพระองค์ แผ่ปกคลุมโลกธาตุหนึ่งหมื่น
ขอพระองค์โปรดประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพระองค์เถิด


๑๓. นะวุติระตะนุพเพโธ สุมะโน นามะ นายะโก
กัญจะนาจะละสังกาโส นะวุติสะหัสสายุโก


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า สุมนะ
ทรงมีพระวรกายสูงเก้าสิบศอก ทรงเป็นผู้นำ
ทรงเป็นผู้เปรียบประดุจสุวรรณคีรี ทรงมีพระชนมายุเก้าหมื่นปี


๑๔. อุเปโต พุทธะคุเณหิ สัพพะสัตตะหิเตสะโก
กะโรตุ โน มะหาสันติง อาโรคฺยัญจะ สุขัง สะทา


ทรงประกอบด้วยพระพุทธคุณทั้งหลาย
ทรงแสวงหาความเกื้อกูลแก่เหล่าสัตว์โลกทั้งปวง
โปรดประทานความสงบร่มเย็น ความไม่มีโรค
และความสุข แก่พวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๕. อะสีติระตะนุพเพโธ สัฏฐีสะหัสสะอายุโก
เรวะโต นามะ สัมพุทโธ สัพพะโลกุตตะโร มุนิ


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า เรวตะ
ทรงมีพระวรกายสูงแปดสิบศอก ทรงมีพระชนมายุหกหมื่นปี
ทรงประเสริฐกว่าสัตว์โลกทั้งปวง ทรงรู้แจ้งโลกทั้งปวง


๑๖. ตัสสะ สะรีเร นิพพัตตา ปะภามาลา อะนุตตะรา
ผะรันตา โยชะเน นิจจัง สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


แสงแห่งพระรัศมีอันไม่มีที่เปรียบ
อันเกิดแต่พระวรกายของพระองค์
แผ่ไปตลอดแนวหนึ่งโยชน์เป็นนิจ
โปรดประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๗. โสภิโต นามะ สัมพุทโธ นะวุติสะหัสสายุโก
สังสาระสาคะเร สัตเต พะหู โมเจติ ทุกขะโต


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า โสภิตะ
ทรงมีพระชนมายุเก้าหมื่นปี ทรงเปลื้องสัตว์โลกเป็นจำนวนมาก
จากทุกข์ในห้วงมหาสมุทร คือ สังสารวัฏ


๑๘. อัฏฐะปัญญาสะระตะนัง อัจจุคคะโต มะหามุนิ
โอภาเสติ ทิสา สัพพา สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระองค์ ทรงมีพระวรกายสูงห้าสิบแปดศอก
ทรงเป็นพระมหามุนีผู้ประเสริฐ ทรงยังทิศทั้งปวงให้สว่างไสว
โปรดประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด
(ในวรกัป ๓ พระองค์)


๑๙. อะโนมะทัสสี สัมพุทโธ เตชัสสี ทุระติกกะโม
อัฏฐะปัณณาสะระตะโน โอภาเสนโต สะเทวะเก


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า อโนมทัสสี
ผู้อันศัตรูไม่สามารถกล้ำกรายได้
ทรงมีพระวรกายสูงห้าสิบแปดศอก
ทรงกระทำมนุษย์โลกพร้อมทั้งเทวโลกให้สว่างไสวอยู่


๒๐. นิพพานะปาปะโก โลเก วัสสัสสะตะสะหัสสายุ
กะโรตุ โน มะหาสันติง สุขิตา จะ มะยัง สะทา


พระองค์ทรงยังสัตว์โลกให้ถึงพระนิพพาน
ทรงมีพระชนมายุหนึ่งแสนปี
โปรดประทานความสงบร่มเย็น
แก่พวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด
อนึ่งขอให้พวกข้าพระองค์ จงเป็นผู้มีความสุข ในกาลทุกเมื่อเถิด.


๒๑. ปะทุโม นามะ สัมพุทโธ โลกะเชฏโฐ นะราสะโภ
อัฏฐะปัญญาสะระตะโน อาทิจโจวะ วิโรจะติ


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมะ
ทรงเป็นผู้ประเสริฐกว่าเหล่าสัตว์โลกทั้งปวง
ทรงมีพระวรกายสูงห้าสิบแปดศอก ทรงรุ่งโรจน์ประดุจพระอาทิตย์


๒๒. วัสสัสสะตะสะหัสสานิ อายุ ตัสสะ มะเหสิโน
โสปิ พุทโธ การุณิโก สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระองค์ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่
ทรงมีพระชนมายุหนึ่งแสนปี
แม้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ทรงมีพระมหากรุณา
ขอทรงโปรดประทานความสวัสดี
แก่พวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด


๒๓. อัฏฐาสีติระตะนุพเพโธ นาระโท สัพพะกามะโท
นิรันตะรัง ทิวารัตติง โยชะนัง ผะระเต ปะภา

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า นารทะ
ทรงมีพระวรกายสูงแปดสิบแปดศอก
ทรงประทานสิ่งที่น่าชอบใจทั้งปวง
พระรัศมีของพระองค์แผ่ไปสู่ที่หนึ่งโยชน์ ตลอดวันและคืนเป็นนิจ


๒๔. นะวุติวัสสะสะหัสสานิ ฐัตฺวา โลเก วินายะโก
โมเจติ ทุกขะโต สัตเต โสปิ โสตถิง กะโรตุ โน


พระองค์ทรงแนะนำสั่งสอนสัตว์โลก ให้หลุดพ้นจากวัฏฏทุกข์
ทรงมีพระชนมายุเก้าหมื่นปี
โปรดประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพระองค์เถิด

(ในสารกัป ๑ พระองค์)



๒๕. อัฏฐะปัณณาสะระตะโน ปะทุมุตตะโร มะหามุนิ
ตัสสะ ปากะติกา รังสี ผะรันติ ทฺวาทะสะ โยชะเน


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ
ทรงมีพระวรกายสูงห้าสิบแปดศอก
พระรัศมีอันมีอยู่โดยธรรมชาติของพระองค์ แผ่ไปถึงสิบสองโยชน์


๒๖. วัสสัสสะตะสะหัสสานิ ฐัตฺวา โลเกมะตันทะโท
โมเจติ พันธะนา สัตเต โสปิ ปาเลตุ โน สะทา


พระองค์ทรงประทานอมฤตธรรม คือ พระนิพพาน
ทรงดำรงพระชนม์อยู่ในโลกตลอดหนึ่งแสนปี
ทรงเปลื้องหมู่สัตว์โลก ให้พ้นจากกิเลสเครื่องผูกมัด
ขอพระองค์โปรดคุ้มครองพวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด

(ในมัณฑกัป ๒ พระองค์)



๒๗. อัฏฐาสีติระตะนานิ อัจจุคคะโต มะหามุนิ
สุเมโธ นามะ สัมพุทโธ นะวุติสะหัสสายุโก


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า สุเมธะ
ทรงมีพระวรกายสูงแปดสิบแปดศอก
ทรงเป็นพระมหามุนีผู้ประเสริฐ ทรงมีพระชนมายุเก้าหมื่นปี


๒๘. ตัสสะ ปากะติกา รังสี ผะรันติ โยชะนัง สะทา
ปาเลตุ โน สะทา พุทโธ ภะเยหิ วิวิเธหิ จะ


พระรัศมีอันมีอยู่โดยปกติของพระองค์
แผ่ไปตลอดหนึ่งโยชน์ในกาลทุกเมื่อ
ขอพระพุทธเจ้าพระนามว่า สุเมธะ นั้น
โปรดคุ้มครองพวกข้าพระองค์ ให้พ้นจากภัยต่าง ๆ


๒๙. ปัญญาสะระตะนุพเพโธ สุชาโต นามะ นายะโก
เหมะวัณโณ มะหาวีโร มะหาตะมะวิโนทะโน


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า สุชาตะ
ทรงมีพระวรกายสูงห้าสิบศอก ทรงเป็นผู้นำ
ทรงมีพระฉวีประดุจทอง ทรงเป็นผู้แกล้วกล้ายิ่ง
ทรงบรรเทาความมืด คือ โมหะ


๓๐. นะวุติวัสสะสะหัสสานิ อายุ ตัสสะ มะเหสิโน
โสปิ พุทโธ การุณิโก สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


ขอพระพุทธเจ้าพระนามว่า สุชาตะ
แม้นั้น ผู้ทรงมีพระชนมายุเก้าหมื่นปี ทรงมีพระมหากรุณา
โปรดประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด
(ในวรกัป ๓ พระองค์)


๓๑. อะสีติระตะนุพเพโธ ปิยะทัสสี มะหามุนิ
นะวุติวัสสะสะหัสสานิ ฐัตฺวา โลกัคคะนายะโก


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า ปิยทัสสี
ทรงมีพระวรกายสูงแปดสิบศอก ทรงเป็นมุนีผู้ประเสริฐ
ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลกสู่พระนิพพาน
ทรงดำรงพระชนม์อยู่ตลอดเก้าหมื่นปี


๓๒. โสปิ สัพพะคุณูเปโต สัพพะโลกะสุขัปปะโท
สัพพะโทสัง วินาเสนโต สัพพัง โสตถิง กะโรตุ โน


ขอพระพุทธเจ้าพระนามว่า ปิยทัสสี
แม้นั้น ผู้ทรงประกอบด้วยคุณทั้งปวง
ทรงให้ความสุขแก่โลกทั้งปวง ทรงกำจัดโทษทั้งปวง
โปรดประทานความสวัสดีทั้งปวง แก่พวกข้าพระองค์เถิด


๓๓. อะสีติระตะนุพเพโธ อัตถะทัสสี นะราสะโภ
วัสสัสสะตะสะหัสสานิ โลเก อัฏฐาสิ นายะโก


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า อัตถทัสสี
ทรงมีพระวรกายสูงแปดสิบศอก ทรงเป็นนระผู้ประเสริฐ
ทรงเป็นผู้นำ ทรงดำรงพระชนม์อยู่ในโลกตลอดหนึ่งแสนปี


๓๔. ตัสสะ ปากะติกา รังสี ผะรันติ โยชะนัง สะทา
นิรันตะรัง ทิวารัตติง นาโถ โสตถิง กะโรตุ โน


พระรัศมีอันมีอยู่โดยปกติของพระองค์
แผ่ไปได้หนึ่งโยชน์ตลอดกลางวันและกลางคืน
ในกาลทุกเมื่อเป็นนิจ พระองค์ผู้เป็นที่พึ่ง
โปรดประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพระองค์เถิด


๓๕. ธัมมะทัสสี จะ สัมพุทโธ อะสีติหัตถะมุคคะโต
อะติโรจะติ เตเชนะ สะเทวาสุระมานุเส


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า ธัมมทัสสี
ทรงมีพระวรกายสูงแปดสิบศอก
ทรงรุ่งโรจน์ด้วยพระเดชานุภาพยิ่งกว่าโลก
ซึ่งประกอบด้วยเหล่าทวยเทพ อสูร และมนุษย์ทั้งหลาย


๓๖. วัสสัสสะตะสะหัสสานิ ฐัตฺวา โลเก มะหายะโส
สัพพะสัตเต ปะโมเจติ ภะยา รักขะตุ โน สะทา


พระองค์ผู้ทรงมีชื่อเสียงและบริวารอันยิ่งใหญ่
ดำรงพระชนม์อยู่ในโลกตลอดหนึ่งแสนปี
ทรงเปลื้องสัตว์ทั้งปวงจากภัย
โปรดคุ้มครองพวกข้าพระองค์ให้พ้นจากภัย ในกาลทั้งปวงเถิด

(ในสารกัป ๑ พระองค์)



๓๗. สิทธัตโถ นามะ สัมพุทโธ สัฏฐิระตะนะมุคคะโต
ติภะเว โสตถิชะนะโก สะตัสสะหัสสะ อายุโก


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า สิทธัตถะ
ทรงมีพระวรกายสูงหกสิบศอก
ทรงยังความสวัสดีให้เกิดขึ้นในภพทั้งสาม
ทรงมีพระชนมายุหนึ่งแสนปี


๓๘. สังสาระสาคะรา โลเก สันตาเรตฺวา สะเทวะเก
นิพพาเปสิ จะ โส สัตถา สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


ขอพระศาสดาพระนามว่า สิทธัตถะ นั้น
ผู้ทรงยังหมู่มนุษย์พร้อมทั้งเหล่าทวยเทพ
ให้ข้ามพ้นจากห้วงมหาสมุทร คือสังสารวัฏ และให้ถึงพระนิพพาน
โปรดประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด

(ในมัณฑกัป ๒ พระองค์)



๓๙. สัฏฐิระตะนะมุพเพโธ ติสโส โลกัคคะนายะโก
อะนูปะโม อะสะทิโส อะตุโล อุตตะโม ชิโน


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า ติสสะ
ทรงมีพระวรกายสูงหกสิบศอก ทรงเป็นบุคคลผู้นำชั้นเลิศของโลก
ไม่มีบุคคลเทียบเท่า ไม่มีบุคคลเสมอเหมือน
ไม่มีบุคคลเปรียบปาน ทรงเป็นผู้สูงสุด ทรงเป็นผู้ชนะมารทั้งปวง


๔๐. วัสสัสสะตะสะหัสสานิ อายุ ตัสสะ มะเหสิโน
อาโรคฺยัญจะ มะหาสุขัง โหตุ โน ตัสสะ เตชะสา


ด้วยพระเดชานุภาพของพระพุทธเจ้า
พระนามว่า ติสสะ พระองค์นั้น ผู้ทรงมีพระชนมายุหนึ่งแสนปี
ขอความไม่มีโรค และความสุขอันประเสริฐ จงมีแก่พวกข้าพระองค์เถิด


๔๑. อัฎฐะปัณณาสะระตะโน ผุสโส โลกัคคะนายะโก
ชะนัมพุชัง วิโพเธนโต นิพพาเปนโต สะเทวะเก


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า ผุสสะ
ทรงมีพระวรกายสูงห้าสิบแปดศอก
ทรงเป็นบุคคลผู้นำชั้นเลิศของโลก
ทรงยังดอกบัวคือหมู่ชนให้เบิกบาน
ทรงยังหมู่มนุษย์ พร้อมทั้งเหล่าทวยเทพ ให้ถึงพระนิพพาน


๔๒. นะวุติวัสสะสะหัสสานิ ฐัตฺวา โลเก มะหายะโส
อุทธะรันโต พะหู สัตเต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระองค์ทรงมีชื่อเสียงและบริวารอันยิ่งใหญ่
ทรงดำรงพระชนม์อยู่ในโลกตลอดเก้าหมื่นปี
ผู้ทรงนำสัตว์โลกจำนวนมากออกจากสังสารวัฏ
โปรดประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด
(ในสารกัป ๑ พระองค์)


๔๓. อะสีติระตะนุพเพโธ วิปัสสี โลกะนายะโก
ปะภา นิทธาวะเต ตัสสะ สะมันตา สัตตะ โยชะเน.


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า วิปัสสี
ทรงมีพระวรกายสูงแปดสิบศอก ทรงเป็นผู้นำของสัตว์โลก
พระรัศมีของพระองค์แผ่ไปตลอดเจ็ดโยชน์โดยรอบ


๔๔. โสปิ เทวะมะนุสสานัง พันธะนา ปะริโมจะยิ
อะสีติสะหัสสายุโก นาโถ โสตถิง กะโรตุ โน


ขอพระพุทธเจ้าพระนามว่า วิปัสสี
แม้นั้น ผู้ทรงมีพระชนมายุแปดหมื่นปี ทรงเป็นที่พึ่ง
ทรงเปลื้องเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย จากเครื่องผูกคือกิเลส
โปรดประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพระองค์เถิด

(ในมัณฑกัป ๒ พระองค์)



๔๕. สัตตะตีหัตถะมุพเพโธ สิขี นาเมสะ นายะโก
ปะภา นิทธาวะเต ตัสสะ สะมันตา โยชะนัตตะเย


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใด
ทรงมีพระวรกายสูงเจ็ดสิบศอก
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นพระนามว่า สิขี ทรงเป็นผู้นำ
พระรัศมีของพระองค์แผ่ไปตลอดสามโยชน์โดยรอบ


๔๖. โสปิ อะตุลฺโย สัมพุทโธ สัตตะตีสะหัสสายุโก
กะโรตุ โน มะหาสันติง สุขิตา จะ มะยัง สะทา


ขอพระพุทธเจ้าพระนามว่า สิขี
แม้นั้น ผู้ทรงไม่มีผู้เปรียบ ทรงมีพระชนมายุเจ็ดหมื่นปี
โปรดประทานความสงบอันประเสริฐ แก่พวกข้าพระองค์
อนึ่ง ขอพวกข้าพระองค์ จงเป็นผู้ถึงความสุข ในกาลทุกเมื่อเถิด


๔๗. เวสสะภู นามะ สัมพุทโธ เหมะรูปะสะมูปะโม
สัฏฐีระตะนะมุพเพโธ สัฏฐี จะ สะหัสสายุโก


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า เวสสภู
ผู้มีพระฉวีประดุจทอง ทรงมีพระวรกายสูงหกสิบศอก
ทรงมีพระชนมายุหกหมื่นปี


๔๘. พฺรัหฺมะเทวะมะนุสเสหิ นาคาสุระทิเชหิ วา
ปูชิโตปิ สะทา นาโถ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


ขอพระพุทธเจ้าพระนามว่า เวสสภู
แม้นั้น ผู้อันหมู่พรหม เทวดา มนุษย์ นาค อสูร และครุฑ
พากันบูชาแล้ว ทรงเป็นที่พึ่ง
โปรดประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด


ในภัทรกัปนี้ ๕ พระองค์
(ผ่านไปแล้ว ๓ พระองค์)



๔๙. ตาฬีสะระตะนุพเพโธ กะกุสันโธ มะหามุนิ
ตัสสะ กายา นิจฉะรันติ ปะภา ทฺวาทะสะ โยชะเน


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า กกุสันธะ
ทรงมีพระวรกายสูงสี่สิบศอก ทรงเป็นมุนีผู้ประเสริฐ
พระรัศมีจากพระวรกายของพระองค์ แผ่ซ่านไปสิบสองโยชน์


๕๐. จัตตาฬีสะสะหัสสานิ ตัสสะ อายุ อะนุตตะโร
กะโรตุ โส สะทา นาโถ อายุง สุขัง พะลัญจะ โน


ขอพระพุทธเจ้าพระนามว่า กกุสันธะ
แม้นั้น ผู้ทรงมีพระชนมายุสี่หมื่นปี
ทรงเป็นผู้ไม่มีใครเปรียบ ทรงเป็นที่พึ่ง
โปรดประทานอายุ ความสุข และกำลังแก่พวกข้าพระองค์
ในกาลทุกเมื่อเถิด


๕๑. โกนาคะมะนะ สัมพุทโธ ติงสะหัตถะสะมุคคะโต
ติงสะวัสสะสะหัสสานิ อายุ ตัสสะ มะเหสิโน


พระ โกนาคมมะ สัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้ทรงมีพระวรกายสูงสามสิบศอก ผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่
ทรงมีพระชนมายุสามหมื่นปี


๕๒. ธัมมามะเตนะ ตัปเปตา เทวะสังฆัง สุราละเย
มะหีตะเล จะ ชะนะตัง สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


ทรงยังหมู่ทวยเทพบนสวรรค์ และหมู่มนุษย์บนพื้นโลก
ให้อิ่มเอิบด้วยอมตธรรม คือพระนิพพาน
โปรดประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด


๕๓. กัสสะโป นามะ สัมพุทโธ ธัมมะราชา ปะภังกะโร
วีสะตีหัตถะมุพเพโธ วีสัสสะหัสสะอายุโก


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า กัสสปะ
ผู้ทรงเป็นพระธรรมราชา ทรงมีพระรัศมี
ทรงมีพระวรกายสูงยี่สิบศอก ทรงมีพระชนมายุสองหมื่นปี


๕๔. อะนูปะโมสะมะสะโม เทวะสัตถา อะนุตตะโร
กะโรตุ โน มะหาสันติง อาโรคฺยัญจะ ชะยัง สะทา


พระองค์ไม่มีผู้เปรียบปานเสมอเหมือน
ทรงเป็นศาสดาของเหล่าทวยเทพ ทรงเป็นผู้ยอดเยี่ยม
โปรดประทานความสงบอันประเสริฐ ความไม่มีโรค และชัยชนะ
แก่พวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด
(พระพุทธเจ้าในปัจจุบัน ๑ พระองค์)


๕๕. อัฏฐาระสะหัตถุพเพโธ โคตะโม สักกะยะวัฑฒะโน
สัพพัญญู สัพพะติละโก สัพพะโลกะสุขัปปะโท


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า โคตมะ
ทรงมีพระวรกายสูงสิบแปดศอก ทรงเป็นผู้เชิดชูศากยวงศ์
ทรงตรัสรู้ธรรมทั้งปวง ทรงเป็นผู้โดดเด่นกว่าชนทั้งปวง
ทรงประทานความสุขให้แก่สัตว์โลก
(ในคัมภีร์พุทธวงศ์แสดงไว้ว่า ทรงมีพระวรกายสูง ๑๖ ศอก)


๕๖. สัมพุทโธ สัพพะธัมมานัง ภะเคหิ ภาคฺยะวา ยุโต
วิชชาจะระณะสัมปันโน โสตถฺยาโรคฺยัง ทะทาตุ โน


ขอพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า โคตมะ
ผู้ตรัสรู้ธรรมทั้งปวง ทรงประกอบด้วยบุญ ทรงมีพระบารมีอันสูงสุด
ทรงเพียบพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ
โปรดประทานความสวัสดี และความไม่มีโรค แก่พวกข้าพระองค์เถิด


๕๗. อัพภาตีตา จะ สัมพุทธา อะเนกะสะตะโกฏิโย
สัพพะโลกะมะภิญญายะ สัพพะสัตตานุกัมปิโน


อนึ่ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย
หลายร้อยโกฏิซึ่งเสด็จล่วงลับไปแล้ว
ทรงประจักษ์โลกทั้งปวงด้วยพระญาณแล้ว
จึงทรงอนุเคราะห์เหล่าสรรพสัตว์


๕๘. สัพพะเวระภะยาตีตา สัพพะโลกะสุขัปปะทา
สัพพะโทสัง วินาเสนตา สัพพะโสตถิง กะโรนตุ โน


ทรงล่วงพ้นเวรและภัยทั้งปวง
ทรงประทานความสุขแก่สรรพสัตว์
ทรงกำจัดโทษทั้งปวง
ขอทรงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพระองค์เถิด
(พระพุทธเจ้าในอนาคต ๑ พระองค์)


๕๙. อะนาคะเต จะ สัมพุทโธ เมตเตยโย เทวะปูชิโต
มะหิทธิโก มะหาเทโว มะหาสันติง กะโรตุ โน


ก็ในอนาคต พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า เมตเตยยะ
ทรงเป็นผู้ที่หมู่ทวยเทพบูชาแล้ว ทรงมีฤทธิ์มาก
ทรงเป็นผู้ประเสริฐกว่าเทวดาทั้งปวง
โปรดประทานความสงบอันประเสริฐ แก่พวกข้าพระองค์เถิด

(พระปัจเจกพุทธเจ้า)



๖๐. สัพเพ ปัจเจกะสัมพุทธา นิโรธะฌานะโกวิทา
นิราละยา นิราสังกา อัปปะเมยยา มะเหสะโย


พระปัจเจกสัมพุทธเจ้าทั้งปวง
ทรงปรีชาญาณในนิโรธสมาบัติและฌานสมาบัติ
ทรงปราศจากความกำหนัดยินดี หมดความรังเกียจ
ทรงคุณอันหาประมาณมิได้ ทรงแสวงหาคุณอันประเสริฐ


๖๑. ทูเรปิ วิเนยเย ทิสฺวา สัมปัตตา ตังขะเณนะ เต
สันทิฏฐิกะผะเล กัตฺวา สะทา สันติง กะโรนตุ โน


พระปัจเจกสัมพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านี้
เห็นหมู่เวไนยสัตว์แม้ในที่ไกล
ก็ทรงเสด็จไปช่วยเหลือสัตว์เหล่านั้น
ให้ได้รับประโยชน์โดยพลัน
โปรดประทานความสงบ แก่พวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด

(นวโลกุตตรธรรม ๙ และปริยัติธรรม ๑)



๖๒. สฺวากขาตาทิสัมปันโน ธัมโม สะปะริยัตติโก
สังสาระสาคะรา โลเก ตาเรติ ชินะโคจะโร


พระธรรม พร้อมทั้งปริยัติที่สมบูรณ์ด้วยคุณ
มีความเป็นธรรม ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้วเป็นต้น
เป็นอารมณ์ของพระพุทธเจ้า
เป็นเหตุยังสัตว์โลกให้ข้ามพ้นสาครคือ สังสารวัฏ


๖๓. กิเลสะชาละวิทธังสี วิสุทโธ พุทธะเสวิโต
นิพพานะคะมะโน สันโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


ขอพระธรรมอันบริสุทธิ์ยิ่ง อันมีปกติทำลายข่ายคือกิเลส
เป็นธรรมที่พระพุทธองค์ทรงเจริญแล้ว
เป็นธรรมอันประเสริฐอันยังสัตว์ให้ถึงพระนิพพาน
โปรดประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพระองค์ ในกาลทุกเมื่อเถิด

(พระสังฆรัตนะ)



๖๔. สีลาทิคุณะสัมปันโน สังโฆ มัคคะผะเล ฐิโต
ชิตินทฺริโย ชิตะปาโป ทักขิเณยโย อะนุตตะโร


พระสงฆ์ผู้สมบูรณ์ด้วยคุณมีศีลเป็นต้น
ดำรงอยู่ในมรรคและผล ชนะอินทรีย์แล้ว ชนะบาปแล้ว
เป็นทักขิเณยยบุคคลผู้ยอดเยี่ยม


๖๕. อะนาสะโว ปะริสุทโธ นิราสาโส ภะวาภะเว
นิพพานะโคจะโร สันโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


ขอพระอริยสงฆ์ผู้ไม่มีอาสวะ ผู้บริสุทธิ์
ผู้หมดความปรารถนาในภพน้อยภพใหญ่
ผู้มีจิตจดจ่อในพระนิพพาน เป็นสัตบุรุษ
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด
(พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ๑๐๘ องค์)


๖๖. อัญญาตะโกณฑัญญัตเถโร รัตตัญญูนัง อัคโค อะหุ
ธัมมะจักกาภิสะมะโย สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระอัญญาโกณฑัญญะเถระ เป็นผู้เลิศกว่าเหล่าภิกษุผู้รู้ราตรี
ผู้บรรลุเป็นพระโสดาบันด้วยพระธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๖๗. วัปปัตเถโร มะหาปัญโญ มะหาตะมะวิโนทะโน
มะหาสันติกะโร โลเก มะหาสันติง กะโรตุ โน


พระวัปปะเถระ ผู้มีปัญญามาก ผู้กำจัดความมืดคือโมหะ
ผู้กระทำความสงบอันประเสริฐในโลก
ขอจงประทานความสงบอันประเสริฐ แก่พวกข้าพเจ้าเถิด


๖๘. ภัททิโย ภัททะสีโล จะ ทักขิเณยโย อะนุตตะโร
โลกัตถะจะริโต เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระภัททิยเถระ ผู้มีศีลงาม
ผู้เป็นทักขิเณยยบุคคลผู้ยอดเยี่ยม
ผู้บำเพ็ญประโยชน์แก่โลก
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๖๙. มะหานาโม มะหาปัญโญ มะหาธัมมะวิทู สุโต
มะหาขีณาสะโว เถโร มะหาสันติง กะโรตุ โน


พระมหานามะเถระ ผู้มีปัญญามาก ผู้ตรัสรู้ธรรมอันประเสริฐ
ผู้มีชื่อเสียง เป็นพระขีณาสพผู้ประเสริฐ
ขอจงประทานความสงบอันยิ่งใหญ่ แก่พวกข้าพเจ้าเถิด


๗๐. อัสสะชิตเถโร มะหาปัญโญ ชิตะมาโร ชิตินทฺริโย
ชิตะปัจจัตถิโก โลเก สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระอัสสชิเถระ ผู้มีปัญญามาก ผู้ชนะมาร
ผู้ชนะอินทรีย์ ผู้ชนะศัตรูในโลก
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๗๑. อะนุปุพพิกะถัง สุตฺวา ยะโส เอกัคคะมานะโส
อัคคะธัมมะมะนุปปัตโต โสตถาโรคฺยัง ทะทาตุ โน


พระยสะเถระ ผู้ฟังอนุปุพพิกถาแล้ว
มีจิตตั้งมั่นบรรลุพระอรหัตผล อันเป็นธรรมอันเลิศ
ขอจงประทานความสวัสดี และความไม่มีโรค แก่พวกข้าพเจ้าเถิด


๗๒. จัตฺวาธิกา จะ ปัญญาสะ เถรา คิหิสะหายะกา
ปัตฺวานะ ปะระมัง สันติง สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน


และพระเถระผู้เป็นพระอรหันต์ ๕๔ รูป
ผู้เคยเป็นสหายของพระยสะ เมื่อครั้งยังเป็นผู้ครองเรือน
บรรลุแล้วซึ่งพระนิพพานอันประเสริฐ
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๗๓. เย ติงสะ ภัททะวัคคิยา รูเปนาตุละวัณณิโน
ขีณาสะวา วะสีภูตา เต กะโรนตุ อะนามะยัง


พระภัททวัคคีย์ผู้เป็นเถระสามสิบองค์
ผู้มีรูปทรงและผิวพรรณอันหาใครเปรียบปานมิได้ สิ้นอาสวะแล้ว
เป็นผู้ชนะตน มีความชำนาญในการเข้าฌาน
ขอจงประทานความไม่มีโรค แก่พวกข้าพเจ้าเถิด


๗๔. อุรุเวละกัสสะโปปิ มะหาปะริสานะมุตตะโม
ฐะปิโต อัคคัฏฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


แม้ พระอุรุเวลกัสสปะ ผู้เป็นเลิศในตำแหน่งแห่งภิกษุผู้มีบริษัทมาก
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๗๕. โย นะทีกัสสะปัตเถโร ปุญญักเขตโต อะนุตตะโร
สะสังโฆ สีละสัมปันโน สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


แม้พระเถระนามว่า นทีกัสสปะ ผู้เป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐ
ผู้มีภิกษุเป็นศิษย์ ๓๐๐ เป็นบริวาร ผู้สมบูรณ์ด้วยศีล
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๗๖. ธัมมะปัชชะลิโต สันโต โย เถโร คะยากัสสะโป
สังยุตโต ภะวะนิสฺเนเห สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระเถระนามว่า คยากัสสปะ ผู้รุ่งเรืองด้วยธรรม ผู้สงบ
ผู้เข้าถึงพระนิพพาน อันเป็นที่ปราศจากภวตัณหา
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๗๗. โลกะนาถัง ฐะเปตฺวานะ ปัญญะวันต

บทสวด ตอนที่2

๑๓๑. อุตติโย วินะยะธะโร อะติกกันโต นะรามะเร
ธาเรนโต อันติมัง เทหัง สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระอุตติยะเถระ ผู้ทรงพระวินัย
ผู้เป็นจอมแห่งหมู่มนุษย์และทวยเทพ
ผู้ทรงร่างกายอันมีในที่สุด
(คือสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ไม่มีการเกิดต่อไปอีก)
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๓๒. วิมะโล วิระโชชัลโล ชาโต ปัณฑะระเกตุนา
พิมพิสารัทธะโช เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระวิมลโกณฑัญญะเถระ
ผู้บังเกิดเป็นโอรสของพระเจ้าพิมพิสาร
ผู้มีวัตรปฏิบัติอันขาวสะอาด
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๓๓. รัมมารัญเญ วะสิตฺวานะ ภาเวนโต กุสะลัง พะหุง
โยคักเขมะมะนุปปัตโต สะภิโย สันติง กะโรตุ โน


พระสภิยะเถระ ผู้อยู่ในป่าอันน่ารื่นรมย์ เจริญกุศลเป็นเอนก
บรรลุพระนิพพานอันเป็นที่สิ้นไปแห่งโยคะ
(คือกิเลสอันเป็นเครื่องผูกสัตว์ไว้ในสังสารวัฏ)
ขอจงประทานความสงบ แก่พวกข้าพเจ้าเถิด


๑๓๔. ปุพเพนิวาสัง ชานันโต ทิพพะจักขุวิโสธะโน
นาคิโตระหะตัง ปัตโต โสตถฺยาโรคฺยัง ทะทาตุ โน


พระนาคิตะเถระ ผู้ระลึกชาติในปางก่อนได้
ผู้มีทิพจักษุอันบริสุทธิ์ บรรลุถึงความเป็นพระอรหันต์แล้ว
ขอจงประทานความสวัสดี และความไม่มีโรค แก่พวกข้าพเจ้าเถิด


๑๓๕. ปาติโมกขะมะนุปปัตโต วิชะโยรัญญะโคจะโร
ลาภาลาภี ตะถาสังสี สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระวิชยะมหาเถระ ผู้เข้าถึงปาติโมกข์สังวรศีล
ผู้มีป่าเป็นที่โคจร ผู้มีปกติกล่าวสรรเสริญ ตามที่ตนได้ปัจจัยมา
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๓๖. ตัณหาชะฏัง วิชะเฏตฺวา วัฑเฒตฺวานะ วิปัสสะนัง
สังฆะรักขิโต มะหาเถโร มะหาสันติง กะโรตุ โน


พระสังฆรักขิตะมหาเถระ
ผู้ถางรกชัฏคือตัณหา ยังวิปัสสนาให้เจริญ
ขอจงประทานความสงบอันประเสริฐ แก่พวกข้าพเจ้าเถิด


๑๓๗. อรัญญะวาสาภิระโต ภะวะเนตติสะมูหะโต
ธัมมานัง ปาระมิปปัตโต อุตตะโร ปาตุ โน ภะยา


พระอุตตระเถระ ผู้ยินดียิ่งในการอยู่ป่า ผู้ถอนตัณหา
อันเป็นเครื่องนำไปสู่ภพได้แล้ว
บรรลุถึงฝั่งแห่งธรรมทั้งหลายคือ มรรค ผล นิพพาน
ขอจงรักษาพวกข้าพเจ้า ให้พ้นจากภัยเถิด


๑๓๘. ปุพเพ ปุญญานิ กัตฺวานะ ปุพพะโยคัง สะมาระภิ
อุสะโภระหะตัง ปัตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระอุสภะเถระ ผู้กระทำบุญทั้งหลายไว้ในกาลก่อนแล้ว
ปรารภกรรมฐานอันเป็นส่วนเบื้องต้นแห่งอริยมรรค
รรลุความเป็นพระอรหันต์
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๓๙. สะมาปัตติสะมาปันโน ฉะฬะภิญโญ มะหิทธิโก
สิวะโก พุทธะฌายันโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระสิวกะเถระ ผู้ถึงพร้อมด้วยสมาบัติ มีอภิญญาหก มีฤทธิ์มาก
เป็นผู้พิจารณาตัณหา ดังที่พระพุทธองค์ทรงพิจารณา
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๔๐. สัตตาริยะธะโน เถโร ธะนิโย ธัมมะสาคะโร
วันตะสังสาระคะมะโน สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระธนิยะเถระ ผู้มีอริยทรัพย์เจ็ดประการ
ผู้เป็นดุจทะเลแห่งธรรม ผู้สำรอกกิเลส
อันเป็นเหตุท่องเที่ยวในสังสารวัฏได้แล้ว
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด
๑๔๑. ปัญจักขันเธ ปะริญญายะ ภาวะยิตฺวานะ นิพพุติง

ปัตตฺวานะ ปะระมัง สันติง โปสิโย ปาตุ โน ภะยา


พระโปสิยะเถระ ผู้กำหนดรู้เบญจขันธ์แล้ว
เสวยอรหัตผลสมาบัติ เข้าถึงพระนิพพานอันประเสริฐ
ขอจงรักษาพวกข้าพเจ้าให้พ้นจากภัยเถิด


๑๔๒. อุปะนิสสะยะสัมปันโน อุชชะโย พุทธะมามะโก
โลกัตถะปะสุโต เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระอุชชยะเถระ ผู้สมบูรณ์ด้วยธรรมอันเป็นเหตุออกจากวัฏฏะ
ผู้นับถือพระพุทธเจ้าเป็นอย่างยิ่ง
ผู้ขวนขวายประโยชน์เพื่อชาวโลก
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๔๓. พุทธัปปะสาทะสัมปันโน ปัพพะชี ชินะสาสะเน
สัญชะโย นามะ โส เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระเถระนามว่า สัญชยะ ผู้ถึงพร้อมด้วยความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า
บวชแล้วในศาสนาของพระพุทธเจ้า
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด.


๑๔๔. มารัญชะโย มะหาเถโร รามะเณยโย มะหิทธิโก
นิพพานะนินนะจิตโต โส สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระมหาเถระนามว่า มารัญชยะ ผู้มีฤทธิ์มาก
และพระมหาเถระนามว่า รามะเณยยะ
เป็นผู้มีจิตดิ่งสู่พระนิพพาน
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด.


๑๔๕. อุโภ ปาปัญจะ ปุญญัญจะ วีติวัตโต อะนาสะโว
วีรัตเถโรระหัปปัตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระวีระเถระ ผู้ข้ามพ้นบาปและบุญทั้งสองประการแล้ว
ผู้ไม่มีอาสวะ บรรลุถึงความเป็นพระอรหันต์
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๔๖. ปุณณะมาสะมะหาเถโร ปังสุกูละธะโร ยะติ
ปุพพะกิจจะวิธิง กัตฺวา มะหาสันติง กะโรตุ โน


พระปุณณมาสะมหาเถระ เป็นผู้ทรงผ้าบังสุกุล
กระทำบุพพกิจเบื้องต้นแล้ว
ขอจงประทานความสงบอันประเสริฐ แก่พวกข้าพเจ้าเถิด


๑๔๗. ปัญจะฉินโน ปัญจะชะโห ปัญจะจุตตะริภาวะโน
ปัญจะสังคาติโค เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระปัญจสังคาติคเถระ
ผู้ข้ามพ้นกิเลสเป็นเครื่องข้อง (นิวรณ์) ๕ อย่าง
ผู้ตัดโอรัมภาคิยะสังโยชน์ (สังโยชน์เบื้องต่ำ) ๕ อย่างได้แล้ว
ผู้ละอุทธัมภาคิยะสังโยชน์ (สังโยชน์เบื้องสูง) ๕ อย่างได้แล้ว
ผู้เจริญอินทรีย์ ๕ (ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา) ให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๔๘. ปุพเพ ราคัง วิจาเรนโต ชินะภัตติปะรายะโน
เพลัฏฐะสีโส วังสะธะโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระเพลัฏฐสีสะเถระ ผู้เคยจัดแจงการบูชายัญในกาลที่ตนเป็นฤษี
ผู้ถวายความภักดีต่อพระพุทธเจ้า
ผู้ทรงไว้ซึ่งวงศ์แห่งอริยะ
(วงศ์แห่งอริยะคือสันโดษในจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ
และยินดีในการภาวนา)
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๔๙. ปัญจุปปันนานิ อะภะโย นิกันติ นัตถิ ชีวิเต
อะชิโต โส มะหาเถโร มะหาสันติง กะโรตุ โน


พระมหาเถระนามว่า อชิตะ ผู้ไม่มีความกลัวภัย ๕ อย่าง
(ราชภัย โจรภัย อัคคีภัย อุทกภัย วาตภัย) ที่กำลังเกิดขึ้น
ผู้ไม่มีความเยื่อใยในชีวิต
ขอจงประทานความสงบอันประเสริฐ แก่พวกข้าพเจ้าเถิด


๑๕๐. วิวัฏฏะนิสสะเย ปุญเญ กัตฺวา สัมพุทธะภัตติมา
กุลลัตเถโรระหัปปัตโต มะหาสันติง กะโรตุ โน


พระกุลละเถระ ผู้มีความภักดีในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้ได้กระทำบุญบารมี อันมีนิพพานเป็นที่รองรับ
บรรลุถึงความเป็นพระอรหันต์
ขอจงประทานความสงบอันประเสริฐ แก่พวกข้าพเจ้าเถิด
๑๕๑. วิปัสสี ธัมมะทายาโท เถโร นิโคฺรธะนามะโก

นิพพานาคะมะสันทิฏโฐ สะทา สันติง กะโรตุ โน


พระเถระนามว่า นิโครธะ ผู้มีปกติเจริญวิปัสสนา
ผู้เป็นธรรมทายาท เป็นผู้ได้ประจักษ์แจ้งธรรมที่เป็นเหตุให้ถึงนิพพาน
ขอจงประทานความสงบ แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๕๒. ติสโส วิชชา อะนุปปัตโต สุคันโธ นามะ โสระหา
สัพพะปาปะปะริกขีโณ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระอรหันต์นามว่า สุคันธะ ได้บรรลุวิชชาสาม
เป็นผู้หมดสิ้นจากบาปทั้งปวง
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๕๓. นันทิโย สัทธาสัมปันโน ชิตะกเลโส มะหาเถโร
อะภิญญาปาระมิปปัตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระนันทิยะมหาเถระ ผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา
ผู้ชนะกิเลสทั้งปวง ผู้ถึงที่สุดแห่งอภิญญา
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๕๔. กิเลสา ฌาปิตา เยนะ ชิตะธัมมะระเตนะ โส
กัมมาระปุตตะวิมะโล สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระเถระรูปใด เป็นบุตรของนายช่างทอง
เป็นผู้ยินดีในธรรมอันเป็นเครื่องพิชิตมาร
ชนะกิเลสด้วยมรรคญาณแล้ว
พระเถระนั้นนามว่า วิมละ
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๕๕. เทวะโลกะมะนุสเสสุ อะนุภุตฺวา วิภูติโย
ติสสัตเถโร มะหาภูโต มะหาสันติง กะโรตุ โน


พระติสสะเถระ เสวยสมบัติในเทวโลกและมนุษย์โลกแล้ว
สำเร็จเป็นพระอรหันต์ผู้ประเสริฐ
ขอจงประทานความสงบอันประเสริฐ แก่พวกข้าพเจ้าเถิด


๑๕๖. สุวิมุตโต มะหานาโค ตีหิ วังเกหิ มุตตะโก
สุมังคะโล มะหาเถโร มะหาสันติง กะโรตุ โน
พระสุมังคละมหาเถระ ผู้หลุดพ้นจากกิเลสแล้ว
เป็นพระอรหันต์ผู้ประเสริฐ
พ้นแล้วจากความคดกาย วาจา ใจทั้งสาม
ขอจงประทานความสงบอันประเสริฐ แก่พวกข้าพเจ้าเถิด


๑๕๗. นิรัคคะโฬ นิราสาโส มะละขีละวิโสธะโน
วิเวกาภิระโต คุตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระมหาเถระนามว่า คุตตะ ผู้ปราศจากลิ่มคืออวิชชา
ผู้ปราศจากกิเลสคือความอยาก
ผู้ชำระมลทินได้ทั้งหมด ผู้ยินดีในความวิเวก
โปรดประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๕๘. ปะวิเวกะมะนุปปัตโต คิริมานันทะนามะโก
ภาเวนโต กุสะเล ธัมเม สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระเถระนามว่า คิริมานันทะ เจริญกุศลธรรมทั้งหลายอยู่
ได้บรรลุวิเวก ๓ แล้ว (กายวิเวก จิตวิเวก อุปธิวิเวก)
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๕๙. พุทธะสาสะนะมารัทโธ สะมิทธิ ภาวะนาระโต
สะมิทธิคุณะสัมปันโน สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระสมิทธิเถระ ผู้ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าผู้ยินดีในภาวนา
ผู้สมบูรณ์ด้วยคุณ อันเป็นเหตุแห่งความสำเร็จ
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๖๐. อาราธิตะชิโน สันโต โชติตเถโร มะหาระหา
วิมุตโต สัพพะสังสารา สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระโชติตเถระ ผู้ชนะตัณหา อันเป็นเหตุให้ยินดีได้แล้ว
เป็นผู้สงบ เป็นพระอรหันต์ผู้ประเสริฐ
หลุดพ้นแล้วจากสังสาระทั้งปวง
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด
๑๖๑. เสนาสะนานิ ปันตานิ เสวันโต ฌานะมาระภิ

ฉะฬะภิญโญ มะหาจุนโท สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระมหาจุนทะเถระ
อาศัยเสนาสนะอันสงัดอยู่ เข้าฌาน ได้อภิญญา ๖
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๖๒. ฉันนัตเถโร สะหะชาโต สุณันโต ชินะสาสะนัง
โยคักเขมะมะนุปปัตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระฉันนะเถระ ผู้เป็นสหชาตกับพระพุทธเจ้า
เมื่อเชื่อฟังคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ได้บรรลุธรรมอันเป็นแดนเกษมจากโยคะ (คือพระนิพพาน) แล้ว
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๖๓. เมฆิโย พุทธุปปัฏฐาโก ชินะภัตติปะรายะโน
มิจฉาวิตักกุปัจเฉโท สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระเมฆิยะเถระ ผู้อุปัฏฐากพระพุทธเจ้า
ผู้มีความภักดี ในพระพุทธเจ้าเป็นอย่างยิ่ง
ตัดมิจฉาวิตกคือความดำริผิดได้แล้ว
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๖๔. อุปะวาโณ มะหาเถโร มะหากาโย มะหาระหา
มะหิทธิโก มะหาเตโช สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระอุปวาณะ ผู้เป็นมหาเถระ มีร่างกายใหญ่
เป็นพระอรหันต์ผู้ประเสริฐ มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด.


๑๖๕. สังกิจโจ โจระทะมะโน สัพพะสังโยชะนักขะโย
ปาเลตุ โน สัพพะภะยา โสตถฺยาโรคฺยัง ทะทาตุ โน


พระสังกิจจะเถระ ผู้ฝึกโจรห้าร้อย
สิ้นสังโยชน์คือกิเลส เครื่องผูกสัตว์ไว้ในสังสารวัฏแล้ว
ขอจงรักษาพวกข้าพเจ้าให้พ้นจากภัยทั้งปวง
ขอจงประทานความสวัสดี และความไม่มีโรค แก่พวกข้าพเจ้าเถิด


๑๖๖. ปัญหะพฺยากะระเณ เฉโก เมตตาฌานะระโต ยะติ
โสปาโกปายะสัมปันโน สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระโสปากะเถระ
เป็นภิกษุผู้ฉลาดในการทูลตอบปัญหาของพระพุทธเจ้า
ผู้ยินดีในฌานอันประกอบด้วยเมตตา
ผู้ถึงพร้อมด้วยอุบาย เพื่อให้ได้มรรคผล
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๖๗. เขตตะสัมปัตติสัมปัตโต วัฑฒะมาโนวะ โสตถินา
สุมะโน อะระหา ชาโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระสุมนะเถระ ผู้สมบูรณ์ด้วยกาลเวลา
อันสมควรที่จะบรรลุธรรม
ผู้เจริญเติบโตด้วยความสุข เป็นพระอรหันต์แล้ว
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๖๘. ปิโย เทวะมะนุสสานัง สานุตเถโร พะหุสสุโต
เมตตาฌายี ตะโมฆาตี สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระสานุเถระ ผู้เป็นที่รักของเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย
ผู้เป็นพหูสูต ผู้มีปกติเข้าฌานประกอบด้วยเมตตา
ผู้ทำลายความมืดคือโมหะ
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๖๙. โย จะ ปุพเพ กะตัง ปาปัง กุสะเลนะ ปิธียะติ
อังคุลิมาโล โส เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระเถระใด ได้เคยทำบาปมาก่อน
เป็นผู้ตัดบาปอกุศลได้ด้วยอริยมรรค
พระเถระนั้นนามว่า องคุลีมาละ
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๗๐. วิปัสสะนาธุรา เยปิ เถรา สะมะถะยานิกา
ขีณาสะวา มะหาเตชา มะหาตะมะวิโนทะนา


พระเถระแม้เหล่าใด ผู้สิ้นอาสวะ ผู้มีอานุภาพอันยิ่งใหญ่
ผู้ขจัดความมืดมิดคือโมหะ ผู้เจริญวิปัสสนาเป็นธุระก็ดี
พระเถระเหล่าใด ผู้เป็นสมถยานิกะก็ดี


๑๗๑. ฌานิกาฌานิกา เยปิ ธัมมาภิสะมะยาทะโย
สัพเพ โสตถิง สะทา เทนตุ ชะยะมาโรคฺยะมายุ โน


และพระเถระเหล่าใด ผู้ได้ฌานและไม่ได้ฌานก็ดี
พระเถระเหล่าใด ผู้ถูกกำหนดด้วยการบรรลุอริยสัจธรรมก็ดี
ขอพระเถระทั้งปวง ที่กล่าวมาแล้วนี้
จงประทานความสวัสดี ชัยชนะ ความไม่มีโรค และอายุ
แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด
๑๗๒. รัตตัญญูนัง ภิกขุนีนัง โคตะมี ชินะมาตุจฉา

ฐะปิตา อัคคัฏฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระโคตมีเถรี ผู้เป็นพระน้านางของพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าทรงตั้งไว้ ในตำแหน่งผู้เลิศกว่าบรรดาภิกษุณีผู้รู้ราตรี
ขอพระเถรี ได้โปรดประทานความสวัสดี
แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๗๓. มะหาปัญญานะมัคคัฏฐา เขมาเถรีติ ปากะฏา
สาวิกา พุทธะเสฏฐัสสะ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน


พระพุทธสาวิกาผู้ประเสริฐสุด ปรากฎนามว่า พระเขมาเถรี
ผู้ดำรงอยู่ในตำแหน่งผู้เลิศกว่า
เหล่าบรรดาภิกษุณีผู้มีปัญญามาก
ขอพระเถรีจงประทานความสวัสดี
แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๗๔. เถรี อุปปะละวัณณา จะ อิทธิมันตีนะมุตตะมา
สาวิกา พุทธะเสฏฐัสสะ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระอุบลวรรณาเถรี เป็นพุทธสาวิกาผู้ประเสริฐสุด
เป็นผู้เลิศกว่า เหล่าบรรดาภิกษุณีผู้มีฤทธิ์
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๗๕. วินะยัทธะรีนัง อัคคา ปะฏาจาราติ วิสสุตา
ฐะปิตา อัคคัฏฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระเถรีผู้ปรากฏชื่อว่า พระปฏาจารา
พระพุทธเจ้าทรงตั้งไว้ในตำแหน่งผู้เลิศกว่า
เหล่าบรรดาภิกษุณีผู้ทรงพระวินัย
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๗๖. ธัมมักกะถิกะปะวะรา ธัมมะทินนาติ นามิกา
ฐะปิตา อัคคัฏฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระเถรีผู้มีนามว่า ธัมมทินนา
พระพุทธเจ้าทรงตั้งไว้ ในตำแหน่งผู้เลิศกว่า
เหล่าบรรดาภิกษุณีผู้เป็นธรรมกถึก
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๗๗. ฌายิกานัง ภิกขุนีนัง นันทาเถรีติ นาเมสา
อัคคัฏฐาเน ฐิตา อะหุ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระสาวิกานามว่า นันทาเถรี
เป็นผู้ดำรงอยู่ในตำแหน่งผู้เลิศกว่า
เหล่าบรรดาภิกษุณีผู้มีฌาน
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๗๘. อารัทธะวีริยานัง อัคคา โสณาเถรีตินามิกา
ฐะปิตา ตัตถะ ฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระเถรีนามว่า โสณา
พระพุทธเจ้าทรงตั้งไว้ในตำแหน่งผู้เลิศกว่าเหล่าบรรดาภิกษุณี
ผู้ปรารภความเพียร
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๗๙. ทิพพะจักขุกานัง อัคคา พะกุลา อิติ วิสสุตา
วิสุทธะนะยะนา สาปิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระเถรีผู้ปรากฏชื่อว่า พกุลา เป็นผู้มีจักษุอันบริสุทธิ์
เป็นผู้เลิศกว่าเหล่าบรรดาภิกษุณีผู้มีตาทิพย์
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๘๐. กุณฑะละเกสี ภิกขุนี ขิปปาภิญญานะมุตตะมา
ฐะปิตาเยวะ ฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


ภิกษุณีชื่อว่า กุณฑละเกสี
พระพุทธเจ้าทรงตั้งไว้แล้วในตำแหน่ง เป็นผู้เลิศกว่า
เหล่าบรรดาภิกษุณีผู้ตรัสรู้เร็ว
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๘๑. เถรี ภัททะกาปิลานี ปุพพะชาติมะนุสสะรี
ตาสังเยวะ ภิกขุนีนัง อัคคา โสตถิง กะโรตุ โน


พระภัททกาปิลานีเถรี ผู้ระลึกถึงชาติในปางก่อนได้
เป็นผู้เลิศกว่า เหล่าบรรดาภิกษุณีผู้ระลึกชาติปางก่อนได้
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้าเถิด.


๑๘๒. เถรี ตุ ภัททะกัจจานา มะหาภิญญานะมุตตะมา
ชิเนนะ สุขะทุกขัง สา สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


พระภัททกัจจานาเถรี (พระนางยโสธรา)
ผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุขเป็นคู่บารมีกับพระชินเจ้า
พระพุทธเจ้าทรงตั้งพระนางไว้ในตำแหน่ง เป็นผู้เลิศกว่า
เหล่าบรรดาภิกษุณีผู้มีอภิญญาอันพิเศษ
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๘๓. ลูขะจีวะระธารีนัง อัคคา กิสาปิ โคตะมี
ฐะปิตา อัคคัฏฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


แม้ พระกิสาโคตมี พระศาสดาตั้งไว้ในตำแหน่ง
เป็นผู้เลิศกว่า เหล่าบรรดาภิกษุณีผู้ทรงจีวรเศร้าหมอง
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๘๔. สิงคาละมาตา ภิกขุนี สัทธาธิมุตตานะมุตตะมา
กะโรตุ โน มะหาสันติง อาโรคฺยัญจะ สุขัง สะทา


พระสิงคาลมาตาภิกษุณี
เป็นผู้ประเสริฐสุดแห่งเหล่าภิกษุณีผู้มากด้วยศรัทธา
ขอจงประทานความสงบอันประเสริฐ
ความไม่มีโรค และความสุข แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๘๕. อัญญา ภิกขุนิโย สัพพา นานาคุณะธะรา พะหู
ปาเลนตุ โน สัพพะภะยา โสกะโรคาทิสัมภะวา


พระภิกษุณีเหล่าอื่นทั้งปวงเป็นจำนวนมาก
ผู้ทรงคุณธรรมต่าง ๆ กัน
ขอจงรักษาพวกข้าพเจ้าให้พ้นจากภัยทั้งปวง
อันเกิดจากความเศร้าโศก และโรคเป็นต้น


๑๘๖. โสตาปันนาทะโย เสกขา สัทธาปัญญาสีลาทิกา
ภาคะโส กเลสะทะหะนา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน


พระภิกษุณีทั้งหลาย ผู้เป็นพระเสขบุคคลมีพระโสดาบันเป็นต้น
เป็นผู้ยิ่งยวดด้วยศรัทธา ปัญญา และศีล
เป็นผู้เผากิเลสได้เป็นบางส่วน
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด
(พญานาค)


๑๘๗. สุมะโน สุมะนะจะโล อะระวาเฬระปัตตะโก
จัมเปยโย มุจะลินโท จะ กัมพะโล ภุชะคิสสะโร


สุมนะนาคราช สุมนจละนาคราช อรวาฬะนาคราช
เอฬปัตตกะนาคราช จัมเปยยะนาคราช มุจลินทะนาคราช
กัมพละนาคราช ผู้เป็นใหญ่แห่งนาคราช


๑๘๘. กาละนาโค มะหากาโฬ สังขะปาโล มะโหทะโร
มะณิกัณโฐ มะณิอักขิ นันทะนาโคปะนันทะโก


กาละนาคราช มหากาฬะนาคราช สังขปาละนาคราช
มโหทระนาคราช มณิกัณฐะนาคราช มณิอักขินาคราช
นันทะนาคราช อุปนันทะนาคราช


๑๘๙. วะรุโณ ธะตะรัฏโฐ จะ กุงคุวิโลปะลาละโก
จิตฺระนาโค มะหาวีโร ฉัพฺยาปุตโต จะ วาสุกี


วรุณะนาคราช ธตรัฏฐะนาคราช กุงคุวิละนาคราช
อปลาลกะนาคราช จิตระนาคราช มหาวีระนาคราช
ฉัพยาปุตตะนาคราช วาสุกีนาคราช


๑๙๐. กัณหาโคตะโม ภุชะคินโท อัคคิธูมะสิโข ตะถา
จูโฬทะโร อะหิจฉัตโต นาคา เอราปะถาทะโย


กัณหาโคตมะนาคราช นาคผู้เป็นจอมนาค
อัคคิสิขะนาคราช ธูมะสิขะนาคราช อหิจฉัตตะนาคราช
จูโฬทระนาคราช พญานาคทั้งหลาย มีเอราปะถะนาคราชเป็นต้น


๑๙๑. อาสีวิสา โฆระวิสา เย สัพเพ นะยะนาวุธา
ชะลัฏฐา วา ถะลัฏฐา วา ปัพพะเตยยา นะทีจะรา
กะโรนตุ โน มะหาโสตถิง อายุมาโรคิยัง สะทา


หมู่นาคราชทั้งปวงเหล่าใด
เป็นนาคราชมีพิษร้ายแรง (คือพิษแล่นไปเร็ว)
มีพิษน่าสพึงกล้ว มีนัยน์ตาเป็นอาวุธ
ดำรงอยู่ในน้ำ ดำรงอยู่บนบก ดำรงอยู่ที่ภูเขา
หรือว่าเที่ยวไปในนที
ขอนาคราชทั้งปวงเหล่านั้น
จงประทานความสวัสดีอันประเสริฐ
ความมีอายุ และความไม่มีโรค
แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด
(เปรต)


๑๙๒. นิชฌามะตัณหิกา เปตา อุสุสัตติ จะ โลมะกา
มังสะปิณฑาทะโย เปตา เปตา เวมานิกาทะโย
ปาเลนตุ โน สัพพะภะยา สะทา เต สุขิโน สะทา


นิชฌามตัณหิกะเปรต อุสุโลมกะเปรต
สัตติโลมกะเปรต มังสปิณฑะเปรตเป็นต้น เวมานิกะเปรตเป็นต้น
ขอเปรตทั้งหลายเหล่านั้นจงมีความสุขในกาลทุกเมื่อ
จงรักษาพวกข้าพเจ้าให้พ้นจากภัยทั้งปวง ในกาลทุกเมื่อเถิด

(อสูร)



๑๙๓. เย ปะหาราทะสัมพะระ พะลฺยาสุระคะณา จะ เย
เวปะจิตตาสุระคะณา จันทาสุระคะณาทะโย


หมู่อสูรเหล่าใด คือ หมู่ปหาราทะอสูร หมู่สัมพะระอสูร
หมู่พลิอสูร หมู่เวปจิตตะอสูร หมู่จันทะอสูรเป็นต้น


๑๙๔. สัพเพ เตปิ มะหาเตชา ภูตะยักขะนิวาระณา
กะโรนตุ โน มะหาโสตถิง อาโรคฺยัญจะ ชะยัง สะทา


แม้หมู่อสูรเหล่านั้นทั้งปวง มีเดชมาก
ผู้สามารถป้องกันภูตและยักษ์
ขอจงประทานความสวัสดีอันประเสริฐ
ความไม่มีโรค และชัยชนะ แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด
(เทวดา)


๑๙๕. เย ยักขา สัตตะสะหัสสา ภุมมา กาปิละวัตถุกา
อิทธิมันโต ชุติมันโต วัณณะวันโต ยะสัสสิโน


ยักษ์ผู้เป็นภุมมเทวดาเจ็ดพันตนเหล่าใด
อยู่ในเมืองกบิลพัสดุ์ มีฤทธิ์ มีความเจริญรุ่งเรือง มีวรรณะ มีบริวารมาก


๑๙๖. สัพเพ ติสะระณา ยักขา มะเหสักขา ชุตินธะรา
กะโรนตุ โน มะหาโสตถิง อาโรคฺยัญจะ ชะยัง สะทา


ยักษ์(เทวดา)ทั้งปวง ผู้มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง
มีศักดิ์ใหญ่ผู้ทรงไว้ซึ่งความรุ่งเรือง
ขอยักษ์เหล่านั้น จงประทานความสวัสดีอันประเสริฐ
ความไม่มีโรค และชัยชนะ แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๙๗. ฉะสะหัสสา เหมะวะตา ยักขา นานัตตะวัณณิโน
พุทธะปูชายะ นิระตา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.


ยักษ์(เทวดา)หกพันตน อยู่ที่เขาเหมวตา
มีผิวพรรณวรรณะต่าง ๆ กัน ยินดีในการบูชาพระพุทธเจ้า
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๙๘. สาตาคิรา ติสะหัสสา ยักขา นีลาทิวัณณิโน
นานาปะภายะ สัมปันนา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน


ยักษ์(เทวดา)สามพันตน อยู่ที่เขาสาตาคีรี
มีผิวพรรณ วรรณะสีเขียวเป็นต้น ผู้สมบูรณ์ด้วยรัศมีต่าง ๆ
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๑๙๙. เวสสามิตตา ปัญจะสะตา ยักขา นานัตตะวัณณิโน
อิทธิมันโต ชุติมันโต วัณณะวันโต ยะสัสสิโน
โมทะมานา อะภิกกามุง สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน


ยักษ์(เทวดา)ห้าร้อยตน
อยู่ที่เขาเวสสามิตตะมีผิวพรรณวรรณะต่าง ๆ กัน
มีฤทธิ์ มีความรุ่งเรือง มีวรรณะ มีบริวาร บันเทิงอยู่ มาชุมนุมกัน
ขอจงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๒๐๐. กุมภีโร ราชะคะหิโก เวปุลลัสสะ นิเวสะนัง
ภิยโย นัง สะตะสะหัสสัง ยักขานัง ปะยิรุปาสะติ
โส ยักเขหิ ปะริวาโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


เทวดาชื่อว่า กุมภีระ อยู่ในพระนครราชคฤห์
วิมานของท้าวเธอนั้น ได้แก่ยอดเขาเวปุลละ
ท้าวเธอนั้น เป็นผู้อันหมู่ยักษ์หลายแสนตนเข้ามาปรนนิบัติรับใช้
ขอท้าวกุมภีระผู้มียักษ์เป็นบริวารนั้น
จงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๒๐๑. ปุริมัญจะ ทิสัง ราชา ธะตะรัฏโฐ ปะสาสะติ
คันธัพพานัง อะธิปะติ มะหาราชา ยะสัสสิ โส


ท้าวมหาราชนามว่า ธตรัฏฐะ ปกครองอยู่ในทิศบูรพา
เป็นอธิบดีของพวกคนธรรพ์ ท้าวเธอมีบริวารมาก


๒๐๒. ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา
โส ราชา สะหะ ปุตเตหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


แม้บุตรของท้าวเธอก็มีมาก นามว่า อินทะ มีกำลังมาก
ขอท้าวธตรัฏฐะกับบุตรทั้งหลาย
จงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๒๐๓. ทักขิณัญจะ ทิสัง ราชา วิรุฬโห ตัง ปะสาสะติ
กุมภัณฑานัง อะธิปะติ มะหาราชา ยะสัสสิ โส


ท้าวมหาราชนามว่า วิรุฬหก ปกครองอยู่ในทิศทักษิณ
เป็นอธิบดีของพวกกุมภัณฑ์ ท้าวเธอมีบริวารมาก


๒๐๔. ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา
วิรุฬโห สะหะ ปุตเตหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


แม้บุตรของท้าวเธอก็มีมาก นามว่า อินทะ มีกำลังมาก
ขอท้าววิรุฬหกะกับบุตรทั้งหลาย
จงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๒๐๕. ปัจฉิมัญจะ ทิสัง ราชา วิรูปักโข ปะสาสะติ
นาคานัญจะ อะธิปะติ มะหาราชา ยะสัสสิ โส


ท้าวมหาราชนามว่า วิรูปักข์
ปกครองอยู่ในทิศปัจฉิมเป็นอธิบดีของพวกนาค ท้าวเธอมีบริวารมาก
๒๐๖. ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา

วิรูปักโข สะปุตเตหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


แม้บุตรของท้าวเธอก็มีมาก นามว่า อินทะ
มีกำลังมากขอท้าววิรูปักข์กับบุตรทั้งหลาย
จงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๒๐๗. อุตตะรัญจะ ทิสัง ราชา กุเวโร ตัง ปะสาสะติ
ยักขานัญจะ อะธิปะติ มะหาราชา ยะสัสสิ โส


ท้าวมหาราชนามว่า กุเวระ ปกครองอยู่ในทิศอุดร
เป็นอธิบดีของพวกยักษ์ ท้าวเธอมีบริวารมาก


๒๐๘. ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา
กุเวโร สะหะ ปุตเตหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน


แม้บุตรของท้าวเธอก็มีมากนามว่า อินทะ มีกำลังมาก
ขอท้าวกุเวระกับบุตรทั้งหลาย
จงประทานความสวัสดี แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๒๐๙. ปุริมัง ทิสัง ธะตะรัฏโฐ ทักขิเณนะ วิรุฬหะโก
ปัจฉิเมนะ วิรูปักโข กุเวโร อุตตะรัง ทิสัง


ท้าวธตรัฏฐะ ประจำอยู่ในทิศบูรพา ท้าววิรุฬหก
ประจำอยู่ในทิศทักษิณ ท้าววิรูปักขะ ประจำอยู่ในทิศปัจฉิม
ท้าวกุเวระ ประจำอยู่ในทิศอุดร


๒๑๐. จัตตาโร เต มะหาราชา สะมันตา จะตุโร ทิสา
ทัททัฬหะมานา อัฏฐังสุ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน


ท้าวมหาราชทั้งสี่ ผู้รุ่งเรืองดุจประทีป
ประจำอยู่ในทิศทั้งสี่โดยรอบ
ขอท้าวเธอจงประทานความสวัสดี
แก่พวกข้าพเจ้า ในกาลทุกเมื่อเถิด


๒๑๑. เตสัง มายาวิโน ทาสา อาคุง วัญจะนิกา สะฐา
มายา กุเฏณฑุ วิเฏณฑุ วิตุจจะ วิตุโฏ สะหะ


พวกบ่าวของท้าวมหาราชทั้งสี่เหล่านั้น
ล้วนเป็นผู้มีมายาหลอกลวงเจ้าเล่ห์
ได้แก่บ่าว ชื่อกุเฏณฑุก็ดี ชื่อวิเฏณฑุก็ดี ชื่อวิตุจจะก็ดี ชื่อวิตุฏะก็ดี


๒๑๒. จันทะโน กามะเสฏโฐ จะ กินนุฆัณฑุ นิฆัณฑุ จะ
ปะนาโท โอปะมัญโญ จะ เทวะสูโต จะ มาตะลิ


ชื่อจันทนะก็ดี ชื่อกามเสฏฐะก็ดี ชื่อกินนุฆัณฑุก็ดี
ชื่อนิฆัณฑุและปนาทะเทวดาก็ดี ชื่อโอปมัญญะเทวดาก็ดี
เทพสารถีชื่อว่ามาตลิก็ดี ต่างก็มาแล้วสู่ที่ชุมนุม


๒๑๓. จิตตะเสโน จะ คันธัพโพ นะโฬราชา ชะเนสะโภ
วะโร ปัญจะสิโข เจวะ ติมพะรู สูริยะวัจฉะสา

ยังไม่จบนะครับ!

บทสวดอุปปาตะสันติ ( คาถาระงับเหตุร้าย )





นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (สามจบ)

(นำ) หันทะ มะยัง อุปปาตะสันติ คาถาโย ภะณา มะเส ฯ

คำเริ่มต้นคัมภีร์
(ก) สุทุททะโส อะยัง ธัมโม โลกัตถัง ชินะเทสิโต
มหาสันติกะโร โลเก สัพพะส้มปัตติทายะโก.
(ข) สัพพุปะปาตูสะมะโณ ภูตะยักขะนิวาระโณ
อะกาละมัจจุสะมะโณ โสกะโรคะวินาสะโน.
(ค) ปะระจักกะมัททะโนปิ รัญโญ วิชะยะวัฑฒะโน
สัพพานิฏฐะหะโร สันติ ธัมมัง วักขามิ ภูตะโต.
(ฆ) วัตถุตตะยัสสะ โย ยัตถะ สังวัณเณติ คุณุตตะเม
ตัสสะ ตัตถะ สุขาโรคฺยะ โสตถิโย โหนติสัพพะทา.
พระพุทธเจ้าในอดีต ๒๘ พระองค์
ในสารมัณฑกัป ๔ พระองค์
๑. ตัณหังกะโร มหาวีโร สัพพะโลกานุกัมปะโก
วันตะสังสาระคะมะโน สัพพะกามะทะโท สะทา.
๒. สัพพาภิภู สัพพะวิทู สัพพะเทวะคะรุตตะโม
สัพพาสะวะปะริกขีโณ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๓. วะระลักขะณะสัมปันโน เมธังกะโร มหามุนิ
ชุตินธะโร มหาสิรี สุวัณณะคิริสันนิโภ.
๔. ทิพพะรูโป มหากาโย มะหานาโถ มะหัพพะโล
มะหาการุณิโก สัตถา มะหาสันติง กะโรตุ โน.
๕. มหาโมหะตะมัง หันตะวา โย นา โถ สะระณังกะโร
เทวาเทวะมะนุสสานัง โลกานัญจะ หิตังกะโร.
๖. พฺยามัปปะภาภิรุจิโต นิโครธะปะริมัณฑะโล
นิโครธะปักกะพิมโพฏโฐ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๗. อะสีติระตะนุพเพโธ ทีปังกะโร มะหามุนิ
ปภา นิททาวะเต ตัสสะ ฐาเน ทะวาทะสะ โยชะเน.
๘. วัสสะสะตะสะหัสสานิ ฐัตตะวา โลเก วินายะโก
โลกาโลกะกะโร สัตถา สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.

ในสารกัป ๑ พระองค์
๙. อัฏฐาสีติหัตถุพเพโธ โกณทัญโญ นามะ นายะโก
สัพพะธัมเมหิ อะสะโม สัพพะปาระมิตาคะโม.
๑๐. วัสสะสะตะสะหัสสานิ อายุ ตัสสะ มเหสิโน
โมเจตุ โส สัพพะภะยา สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.

ในสารมัณฑกัป ๔ พระองค์
๑๑. อัฏฐาสีติ ระตะนานิ อัจจุคคะโต ชุตินธะโร
มังคะโล นามะ สัมพุทโธ นะวุติสะหัสสายุโก.
๑๒. ฉัพพัณณะรังสิโย ทะสะ สะหัสสะโลกะธาตุยา
ผะรันตา ตัสสะ ฉาเทนติ เอสะ โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๓. นะวุติระตะนุพเพโธ สุมะโน นามะ นายะโก
กัญจะนาจะละสังกาโส นะวุติสะหัสสายุโก.
๑๔. อุเปโต พุทธะคุเณหิ สัพพะสัตตะหิเตสะโก
กะโรตุ โน มหาสันติง อาโรคะยัญจะ สุขัง สะทา.
๑๕. อะสีติระตะนุพเพโธ สัฏฐีสะหัสสะอายุโก
เรวะโต นามะ สัมพุทโธ สัพพะโลกุตตะโร มุนิ.
๑๖. ตัสสะ สะรีเร นิพพัตตา ปะภามาลา อะนุตตะรา
ผะรันตา โยชะเน นิจจัง สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๗. โสภิโต นามะ สัมพุทโธ นะวุติสะหัสสายุโก
สังสาระ สาคะเร สัตเต พะหู โมเจติ ทุกขะโต.
๑๘. อัฏฐะปัญญาสะระตะนัง อัจจุคคะโต มะหามุนิ
โอภาเสติ ทิสา สัพพา สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
ในวรกัป ๓ พระองค์
๑๙. อะโนมะทัสสี สัมพุทโธ เตชัสสี ทุระติกกะโม
อัฏฐะปัญญาสะระตะโน โอภาเสนโต สะเทวะเก.
๒๐. นิพพานะปาปะโก โลเก วัสสะสะตะสหัสสายุโก
กะโรตุ โน มหาสันติง สุขิตา จะ มะยัง สะทา.
๒๑. ปะทุโม นามะ สัมพุทโธ โลกะเชฏโฐ นะราสะโภ
อัฏฐะปัญญาสะระตะโน อาทิจโจวะ วิโรจะติ.
๒๒. วัสสะสะตะสะหัสสานิ อายุ ตัสสะ มเหสิโน
โสปิ พุทโธ การุณิโก สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๒๓. อัฏฐาสีติระตะนุพเพโธ นาระโท สัพพะกามะโท
นิรันตะรัง ทิวารัตติง โยชะนัง ผะระเต ปะภา.
๒๔. นะวุติวัสสะสะหัสสานิ ฐัตฺวา โลเก วินายะโก
โมเจติ ทุกขะโต สัตเต โสปิ โสตถิง กะโรตุ โน.
ในวรกัป ๓ พระองค์
๒๕. อัฏฐะปัญญาสะระตะโน ปะทุมุตตะโร มหามุนิ
ตัสสะ ปากะติกา รังสี ผะรันติ ทฺวาทะสะ โยชะเน.
๒๖. วัสสะสะตะสะหัสสานิ ฐัตฺวา โลเกมะตันทะโท
โมเจติ พันธะนา สัตเต โสปิ ปาเลตุ โน สะทา.
๒๗. อัฏฐาสีติระตะนานิ อัจจุคคะโต มหามุนิ
สุเมโธ นามะ สัมพุทโธ นะวุติสะหัสสายุโก.
๒๘. ตัสสะ ปากะติกา รังสี ผะรันติ โยชะนัง สะทา
ปาเลตุ โน สะทา พุทโธ ภะเยหิ วิวิเธหิ จะ.
๒๙. ปัญญาสะระตะนุพเพโธ สุชาโต นามะ นายะโก
เหมะวัณโณ มะหาวีโร มะหาตะมะวิโนทะโน.
๓๐. นะวุติวัสสะสะหัสสานิ อายุ ตัสสะ มะเหสิโน
โสปิ พุทโธ การุณิโก สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
ในวรกัป ๓ พระองค์
๓๑. อะสีติระตะนุพเพโธ ปิยะทัสสี มหามุนิ
นะวุติวัสสะสะหัสสานิ ฐัตฺวา โลกัคคะนายะโก.
๓๒. โสปิ สัพพะคุณูเปโต สัพพะโลกะสุขัปปะโท
สัพพะโทสัง วินาเสนโต สะพัง โสตถิง กะโรตุ โน.
๓๓. อะสีติระตะนุพเพโธ อัตถะทัสสี นะราสะโภ
วัสสะสะตะสะหัสสานิ โลเก อัฏฐาสิ นายะโก.
๓๔. ตัสสะ ปากะติกา รังสี ผะรันติ โยชะนัง สะทา
นิรันตะรัง ทิวารัตติง นาโถ โสตถิง กะโรตุ โน.
๓๕. ธัมมะทัสสี จะ สัมพุทโธ อะสีติหัตถะมุคคะโต
อะติโรจะติ เตเชนะ สะเทวาสุระมานุเส.
๓๖. วัสสะสะตะสะหัสสานิ ฐัตฺวา โลเก มะหายะโส
สัพพะสัตเต ปะโมเจติ ภะยา รักขะตุ โน สะทา.

ในสารมัณฑกัป ๔ พระองค์
๓๗. สิทธัตโถ นามะ สัมพุทโธ สัฏฐิระตะนะมุคคะโต
ติภะเว โสตถิชะนะโก สะติสสะหัสสะอายุโก.
๓๘. สังสาระสาคะรา โลเก สันตาเรตฺวา สะเทวะเก
นิพพาเปติ จะ โส สัตถา สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๓๙. สัฏฐิระตะนะมุพเพโธ ติสโส โลกัคคะนายะโก
อะนูปะโม อะสะทิโส อะตุโล อุตตะโม ชิโน.
๔๐. วัสสะสะตะสะหัสสานิ อายุ ตัสสะมะเหสิโน
อาโรคฺยัญจะ มหาลุขัง โหตุ โน ตัสสะ เตชะสา.
๔๑. อัฏฐะปัญญาสะระตะโน ผุสโส โลกัคคะนายะโก
ชะนัมพุชัง วิโพเธนโต นิพพาเปนโต สะเทวะเก
๔๒. นะวุติวัสสะสะหัสสานิ ฐัตฺวา โลเก มะหายะโส
อุทธะรันโต พะหู สัตเต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๔๓. อะสีติระตะนุพเพโธ วิปัสสี โลกะนายะโก
ปะภา นิทธาวะเต ตัสสะ สะมันตา สัตตะ โยชะเน.
๔๔. โสปิ เทวะมะนุสสานัง พันธะนา ปะริโมจะยิ
อะสีติสะหัสสายุโก นาโถ โสตถิง กะโรตุ โน.

ในมัณฑกัป ๒ พระองค์
๔๕. สัตตะตีหัตถะมุพเพโธ สิขี นาเมสะ นายะโก
ปภา นิทธาวะเต ตัสสะ สะมันตา โยชะนัตตะเย.
๔๖. โสปิ อะตุลฺโย สัมพุทโธ สัตตะตีสะหัสสายุโก
กะโรตุ โน มะหาสันติง สุขิตา จะ มะยัง สะทา.
๔๗. เวสสะภู นามะ สัมพุทโธ เหมะรูปะสะมูปะโม
สัฏฐีิระตะนะมุพเพโธ สัฏฐี จะ สะหัสสายุโก.
๔๘. พฺรัหฺมะเทวะมะนุสเสหิ นาคาสุระทิเชหิ วา
ปูชิโตปิ สะทา นาโถ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.

ในภัททกัป ๔ พระองค์
๔๙. ตาฬีสะระตะนุพเพโธ กะกุสันโธ มหามุนิ
ตัสสะ กายา นิจฉะรันติ ปะภา ทฺวาทะสะ โยชะนา.
๕๐. จัตตาลฬีสะ สะหัสสานิ ตัสสะ อายุ อะนุตตะโร
กะโรตุ โส สะทา นาโถ อายุ สุขัง พะลัญจะ โน.
๕๑. โกนาคะมะนะ สัมพุทโธ ติงสะหัตถะ สะมุคคะโต
ติงสะวัสสะ สะหัสสานิ อายุ ตัสสะ มะเหสิโน.
๕๒. ธัมมามะเตนะ ตัปเปตา เทวะสังฆัง สุราละเย
มะหีตะเล จะ ชะนะตัง สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๕๓. กัสสะโป นามะ สัมพุทโธ ธัมมะราชา ปะภังกะโร
วีสะตีหัตถะมุพเพโธ วีสะสะหัสสะอายุโก.
๕๔. อะนูปะโมสะมะสะโม เทวะสัตถา อะนุตตะโร
กะโรตุ โน มะหาสันติง อาโรคฺยัญจะ ชะยัง สะทา.
๕๕. อัฏฐาระสะหัตถะถุพเพโธ โคตะโม สักกะยะวัฑฒะโน
สัพพัญญู สัพพะติละโก สัพพะโลกะสุขัปปะโท.
๕๖. สัมพุทโธ สัพพะธัมมานัง ภะเคหิ ภาคฺยะวายุโก
วิชชาจะระณะสัมปันโน โสตถฺยาโรคฺยัง ทะทาตุ โน.
๕๗. อัพภะตีตา จะ สัมพุทธา อะเนกะสะตะโกฏิโย
สัพพะโลกะมะภิญญายะ สัพพะสัตตานุกัมปิโน.
๕๘. สัพพะเวระภะยาตีตา สัพพะโลกะสุขัปปะทา
สัพพะโทสัง วินาเสนตา สัพพะโสตถิง กะโรนตุ โน.

พระพุทธเจ้าในอนาคต ๑ พระองค์
๕๙. อะนาคะเต จะ สัมพุทโธ เมตเตยโย เทวะปูชิโต
มะหิทธิโก มหาเทโว มะหาสันติง กะโรตุ โน.

พระปัจเจกพุทธเจ้า
๖๐. สัพเพ ปัจเจกะสัมพุทธา นิโรธะฌานะโกวิทา
นิราละยา นิราสังกา อัปปะเมยยา มเหสะโย.
๖๑. ทูเรปิ วิเนยเย ทิสฺวา สัมปัตตา ตังขะเณนะ เต
สันทิฏฐิกะผะเล กัตฺวา สะทา สันติง กะโรนตุ โน.

นวโลกุตตรธรรม ๙ และพระปริยัติธรรม ๑
๖๒. สฺวากขาตะตาทิสัมปันโน ธัมโม สะปะริยัตติโก
สังสาระ สาคะรา โลเก ตาเรติ ชินะโคจะโร.
๖๓. กิเลสะชาละวิทธังสี วิสุทโธ พุทธะเสวิโต
นิพพานะคะมะโน สันโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.

พระสังฆรัตนะ
๖๔. สีลาทิคุณะสัมปันโน สังโฆ มัคคะผะเล ฐิโต
ชิตินทฺริโย ชิตะปาโป ทักขิเนยโย อะนุตตะโร.
๖๕. อะนาสะโว ปะริสุทโธ นิราสาโส ภะวาภะเว
นิพพานะโคจะโร สันโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ๑๐๘ รูป
๖๖. อัญญาตะโกญทัญญัตเถโร รัตตัญญูณังอัคโค อะหุ
ธัมมะจักกาภิสะมะโย สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๖๗. วัปปัตเถโร มะหาปัญโญ มะหาตะมะวิโนทะโน
มะหาสันติกะโร โลเก มะหาสันติง กะโรตุ โน.
๖๘. ภัททิโย ภัททะสีโล จะ ทักขิเนยโย อะนุตตะโร
โลกัตถะจะริโต เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๖๙. มะหานาโม มหาปัญโญ มะหาธัมมะวิทู สุโต
มะหาขีณาสะโว เถโร มะหาสันติง กะโรตุ โน.
๗๐. อัสสะชิตะเถโร มหาปัญโญ ชิตะมาโร ชิตินทฺริโย
ชิตะปัจจัตถิโก โลเก สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๗๑. อะนุปุพพิกะถัง สุตฺวา ยะโส เอกัคคะมานะโส
อัคคะธัมมะมะนุปปัตโต โสตถฺยาโรคฺยัง ทะทาตุ โน.
๗๒. จัตฺวาธิกา จะ ปัญญาสะ เถรา คิหิสะหายะกา
ปัตฺวานะ ปะระมัง สันติง สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๗๓. เย ติงสะ ภัททะวัคคิยา รูเปนาตุละวัณณิโน
ขีณาสะวา วะสีภูตา เต กะโรนตุ อะนามะยัง.
๗๔. อุรุเวลละกัสสะโปปิ มะหาปะริสานะมุตตะโม
ฐะปิโต อัคคะฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๗๕. โย นะทีกัสสะปัตเถโร ปุญญักเขตโต อะนุตตะโร
สาสังโฆ สีละสัมปันโน สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๗๖. ธัมมะปัชชะลิโต สันโต โย เถโร คะยากัสสะโป
สังยุตโต ภะวะนิเสนโห สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๗๗. โลกะนาถัง ฐะเปตฺวานะ ปัญญะวันตานะ ปาณินัง
ปัญญายะ สารีปุตตัสสะ กะลัง นาคฆะติ โสฬะสิง.
๗๘. สาริปุตโต มะหาปัญโญ ปะฐะโม อัคคะสาวะโก
ธัมมะเสนาปะติ เสฏโฐ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๗๙. ปาทังคุลิกะมัตเตนะ เวชะยันตะปะกัมปะโน
ปะถะวิง มะหะติง สัพพัง สะมัตโถ ปะริวัตติตุง.
๘๐. โมคคัลลาโน มะหาเถโร ทุติโย อัคคะสาวะโก
อิทธิมันตานัง โส อัคโค สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๘๑. มะหากัสสะปัตเถโรปิ อุตตัตตะกะนะกะสันนิโภ
ธุตะคุณัค คะ นิกขิตโต ตะติโย สัตถุสาวะโก
๘๒. อะรัญญะวาสาภิระโต ปังสุกูละธะโรมุนิ
สุคะตะสาสะนะธะโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๘๓. อาปัตติอะนาปัตติยา สเตกิจฉายะ โกวิโท
วินะเย อัคคะนิกขิตโต อุปาลิ สัตถุวัณณิโต.
๘๔. วินะเย ปาระมิปปัตโต วินะยัคโคจะโร มุนิ
กะโรตุ โน มหาสันติง โสตถฺยาโรคฺยัง ทะทาตุ โน.
๘๕. อะนุรุทธะ มะหาเถโร ทิพพะจักขู นะมุตตะโม
ญาติเสฏโฐ ภะคะวะโต โสตถฺยาโรคฺยัง ทะทาตุ โน.
๘๖. อุจจากุลิกานัง อัคโค ภัททิโย สุสะมาหิโต
กาฬิโคธายะ ปุตโต จะ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๘๗. อานันโท พุทธุปัฏฐาโก สังคีติสาธุสัมมะโต
พะหุสสุโต ธัมมะธะโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๘๘. กิพิิโล สิริสัมปันโน มะหาสุขะสะมัปปิโต
มะหาขีณาสะโว ชาโต มะหาสันติง กะโรตุ โน.
๘๙. คะรุวาสัง วะสิตฺวานะ ปะสันโน พุทธะสาสะเน
ภะคุ จะระหะตัง ปัตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๙๐. กุลัปปะสาทะชะนะโก กาฬุทายี มะหิทธิโก
เอตะทัคคัฏฐิโต เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๙๑. เสฏโฐ ธัมมะกะถิกานัง ติณณัง เวทานะ ปาระคู
ปุณโณ มันตานิยา ปุตโต เถโร โสตถิง กะโรตุ โน.
๙๒. ภาระทฺวาโช มะหาเถโร สีหะนาทานะมุตตะโม
ฐะปิโต อัคคะฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๙๓. สังขิตตะ ภาสิตะมัตถัง วิตถาเรนะ วิชานะโก
กัจจายะโน ภะวะนิเสนโห เถโร โสตถิง กะโรตุ โน.
๙๔. ละกุณฏะกะภัททิโย เถโร มัญชุสสะรานะ มุตตะโม
ฐะปิโต อัคคะฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๙๕. อะระณะวิหารีณัง อัคโค ทักขิเนยโย อะนุตตะโร
สุภูติ ภูตะทะมะโน เถโร โสตถิง กะโรตุ โน.
๙๖. อะรัญญะวาสีนัง อัคโค เรวะโต ขะทิระวะนิโย
วิเวกาภิระโต เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๙๗. ณายีนัง อุตตะโม เถโร กังขาเรวะตะนามะโก
สะมาธิฌานะกุสะโล สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๙๘. โสโณ จะ โกฬิวีโสปิ อารัทธะวีริยานะ มุตตะโม
ปะหิตัตโต สะทา เถโร โสตถิง ผาสุง กะโรตุ โน.
๙๙. กัลยาณะวากกะระณานัง โสโณ กุฏิกัณโณปิ จะ
อัคโคติ วัณณิโต เถโร โสตถิง ผาสุง กะโรตุ โน.
๑๐๐. ลาภีนะมุตตะโม เถโร สีวะลิ อิติ วิสุโต
โส ระโต ปัจจะยาทิมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๐๑. สัทธาธิมุตตานัง อัคโค วักกะลิ อิติ นามะโก
ปาโมชชะพะหุโล เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๐๒. ราหุโล พุทธะปุตโตปิ สิกขากามานะ มุตตะโม
ทายาโท สัพพะธัมเมสุ มะหาสันติง กะโรตุ โน.
๑๐๓. สัทธายะ ปัพพะชิตฺวานะ รัฏฐะปาโล ปะรักกะมี
เอตะทัคเค ฐิโตเยวะ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๐๔. กุณฑะธาโน มะหาเถโร สะลากัง ปะฐะมัง คะโต
ฐะปิโตเยวะ ฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๐๕. ปะฏิภานะวันตานัมปิ อัคโคติ พุทธะวัณณิโต
วังคีโส อะระหา เสฏโฐ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๐๖. สะมันตะปาสาทิกานัง อัคคัฏฐานัมหิ ฐะปิโต
อุปะเสโน วังคันตะปุตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๐๗. ทัพโพ มัลละปุตโต เถโร เสนาสะนะปัญญาปะโก
ฐะปิโต อัคคัฏฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๐๘. ปิลินทะวัจฉะสะมะโณ เทวะตานัง ปิโย อะหุ
ฐะปิโต อัคคัฏฐานัมหิ โสตถฺยาโรคฺยัง ทะทาตุ โน.
๑๐๙. พาหิโย ทารุจีริโย ขิปปาภิญญานะ มุตตะโม
กะโรตุ โน มะหาสันติง อาโรคฺยัญจะ ชะยัง สะทา.
๑๑๐. กุมาระกัสสะปัตเถโร จิตตะกะถีนะ มุตตะโม
มิจฉาวิตักกุปัจเฉโท สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๑๑. ปฏิสัมภิทาปัตตานัง อัคคัฏฐานัมหิ ฐะปิโต
โกฏฐิโต อะระหา เสฏโฐ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๑๒. อัปปาพาโธ มะหาเถโร อัปปาพาธานะ มุตตะโม
พากุโล อะระหา ชาโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๑๓. ปุพเพนิวาสะเวทีนัง อัคโคติ พุทธะวัณณิโต
โสภิโต นามะโส เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๑๔. มหากัปปินัตเถโรปิ ภิกขุโอวาทะโก อะหุ
กุสะโล โอวาททะทาเน สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๑๕. ภิกขุโนวาทะกานัค โค นันทะโก อิติ วิสสุโต
ปาเลตุ โน สะทา เถโร โสตถิง ผาสุง กะโรตุ โน.
๑๑๖. อินทฺริเยสุ คุตตะทฺวาโร อัคคัฏฐาเน ฐิโต อะหุ
นันทัตเถโร วะสิปปัตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๑๗. เตโชธาตุกุสะลานัง อัคคัฏฐานัมหิ ฐะปิโต
สาคะโต นามะ โส เถโร โสตถิง ผาสุง กะโรตุ โน.
๑๑๘. สัญญาวิวัฏฏะกุสะโล ปะธาโน ภาวะนาระโต
พุทธะสิสโส มหาปันโถ มะหาสันติง กะโรตุ โน.
๑๑๙. จูฬะปันถะกัตเถโรปิ มะโนมะยาภินิมมิโต
ฐะปิโต อัคคัฏฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๒๐. ปฏิภาเนยยะกานัง ตุ อัคคัฏฐานัมหิ ฐะปิโต
ราโธ เถโร มหาโสตถิง กะโรตุ โน อะนามะยัง.
๑๒๑. ลูขะจีวะระธะรานัง ภิกขูนัง อุตตะโม อะหุ
โมฆะราชะมะหาเถโร มะหาสันติง กะโรตุ โน.
๑๒๒. วิมะโล วิมะสัปปัญโญ สุรูโป สุสะมาหิโต
ระโช นะ ลิมปะติ ขันเธ มะหาสันติง กะโรตุ โน.
๑๒๓. ธัมมะปาโล มะหาปาโล มะหาธัมมะธะโร ยะติ
มะหาขีณาสะโว โลเก มะหาสันติง กะโรตุ โน.
๑๒๔. จักขุปาโล มะหาเถโร ปะธาโน สีละสังวุโต
ปะหิตัตโต มะหากาโย มะหาสันติง กะโรตุ โน.
๑๒๕. สัพพะเวระภะยาตีโต นาระโท อาสะวักขะโย
มหาสันติกะโร โลเก สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๒๖. พุทธะปูชายะ นิระโต ชินะภัตติปะรายะโน
สัทธัมมะสะวะโน เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๒๗. ปัจฉิมะภะวะสัมปัตโต โคตะโม ภาวะนาระโต
ราคักขะยะมะนุปปัตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๒๘. เสนาสะเนสุ สัปปายัง สัทธา ฌานัง สะมาระภิ
โคธิโก พุทธะฌายันโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๒๙. พุทเธ ปะสันนะมานะโส สุพาหุ ปัญชะลีกะโต
ขีณาสะโว วะสีภูโต มะหาสันติง กะโรตุ โน.
๑๓๐. วิปัสสะนายะ ปะสุโต วัลลิโย สุสะมาหิโต
สะโต ณายี วะเนวาสี สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๓๑. อุตติโย วินะยะธะโร อะติกกันโต นะรามะเร
ธาเรณโต อันติมัง เทหัง สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๓๒. วิมะโล วิระโชชัลโล ชาโต ปัญฑะระเกตุนา
พิมพิสารัทธะโช เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๓๓. รัมมารัญเญ วะสีตฺวานะ ภาเวนโต กุสะลัง พะหุง
โยคักเขมะมะนุปปัตโต สะภิโย สันติง กะโรตุ โน.
๑๓๔. ปุพเพนิวาสัง ชานันโต ทิพพะจักขุ วิโสธะโน
นาคีโตระหะติง ปัตโต โสตถฺยาโรคฺยัง ทะทาตุ โน.
๑๓๕. ปาติโมกขะมะนุปปัตโต วิชะโย รัญญะโคจะโร
ลาภาลาภี ตะถาสังสี สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๓๖. ตัณหาชะฏัง วิชะเฏตฺวา วัฑเฒตฺวานะ วิปัสสะนัง
สังฆรักขิโต มะหาเถโร มะหาสันติง กะโรตุ โน.
๑๓๗. อะรัญญะวาสาภิระโต ภะวะเนตติสะมูหะโต
ธัมมานัง ปาระมิปปัตโต อุตตะโร ปาตุ โน ภะยา.
๑๓๘. ปุพเพ ปุญญานิ กัตตฺวานะ ปุพพะโยคัง สะมาระภิ
อุสสะโภ ระหะตัง ปัตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๓๙. สะมาปัตติ สะมาปันโน ฉะฬะภิญโญ มหิทธิโก
สิวะโก พุทธะฌายันโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๔๐. สัตตาริยะธะโน เถโร ธะนิโย ธัมมะสาคะโร
วันตะสังสาระคะมะโน สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๔๑. ปัญจักขันเธ ปะริญญายะ ภาวะยิตฺวานะ นิพพุตัง
ปัตฺวานะ ปะระมัง สันติง โปสิโย ปาตุ โน ภะยา
๑๔๒. อุปะนิสสะยะสัมปันโน อุชชะโย พุทธะมามะโก
โลกัตถะปะสุโต เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๔๓. พุทธัปปะสาทะสัมปันโน ปัพพะชิ ชินะสาสะเน
สัญชะโย นามะ โส เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๔๔. มารัญชะโย มะหาเถโร รามะเณยโย มะหิทธิโก
นิพพานะนินนะจิตโต โส สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๔๕. อุโภ ปาปัญจะ ปุญญัญจะ วีติวัตโต อะนาสะโว
วีรัตเถโร ระหัปปัตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๔๖. ปุณณะมาสะมะหาเถโร ปังสุกูละธะโร ยะติ
ปุพพะกิจจะวิธิง กัตฺวา มะหาสันติง กะโรตุ โน.
๑๔๗. ปัญจะฉินโน ปัญจะชะโห ปัญจะ จุตตะริภาวะโน.
ปัญจะสังคาติโค เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๔๘. ปุพเพ ราคัง วิจาเรนโต ชินะภัตติปะรายะโน
เพลัฏฐะสีโส วังสะธะโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๔๙. ปัญจุปันนานิ อะภะโย นิกันติ นัตถิ ชีวิเต
อะชิโต โส มะหาเถโร มหาสันติง กะโรตุ โน.
๑๕๐. วิวัฏฏะนิสสะเย ปุญเญ กัตฺวา สัมพุทธะภัตติมา
กุลลัตเถโร ระหัปปัตโต มหาสันติง กะโรตุ โน.
๑๕๑. วิปัสสี ธัมมะทายาโท เถโร นิโคฺรธะนามะโก
นิพพานาคะมะสันทิฏโฐ สะทา สันติง กะโรตุ โน.
๑๕๒. ติสโส วิชชา อะนุปปัตโต สุคันโธ นามะ โส ระโห
สัพพะปาปะปะริกขีโณ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๕๓. นันทิโย สัทธาสัมปันโน ชิตะเกลโส มะหาเถโร
อะภิญญา ปาระมิปปัตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๕๔. กิเลสา ฌาปิตา เยนะ ชิตะธัมมะระเตนะ โส
กัมมาระปุตตะวิมะโล สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๕๕. เทวะโลกะมะนุสเสสุ อะนุภุตฺวา วิภูติโย
ติสสัตเถโร มะหาภูโต มะหาสันติง กะโรตุ โน.
๑๕๖. สุวิมุตโต มะหานาโค ตีหิ วังเกหิ มุตตะโก
สุมังคะโล มะหาเถโร มะหาสันติง กะโรตุ โน.
๑๕๗. นิรัคคะโฬ นิราสาโส มะละขีละวิโสธะโน
วิเวกาภิระโต คุตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๕๘. ปะวิเวกะมะนุปปัตโต คิริมานันทะนามะโก
ภาเวนโต กุสะเล ธัมเม สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๕๙. พุทธะสาสะนะมารัทโธ สะมิทธิ ภาวะนาระโต
สะมิทธิคุณะสัมปันโน สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๖๐. อาราธิตะชิโน สันโต โชติตเถโร มหาระหา
วิมุตโต สัพพะสังสารา สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๖๑. เสนาสะนานิ ปันตานิ เสวันโต ฌานะมาระภิ
ฉะฬะภิญโญ มะหาจุนโท สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๖๒. ฉันนัตเถโร สะหะชาโต สุณันโต ชินะสาสะนัง
โยคักเขมะมะนุปปัตโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๖๓. เมฆิโย พุทธุปัฏฐาโก ชินะภัตติปะรายะโน
มิจฉาวิตักกุปัจเฉโท สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๖๔. อุปะวาโณ มะหาเถโร มะหากาโย มะหาระหา
มะหิทธิโก มะหาเตโช สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๖๕. สังกิจโจ โจระฑะมะโน สัพพะสังโยชะนักขะโย
ปาเลตุ โน สัพพะภะยา โสตถฺยาโรคฺยัง ทะทาตุ โน.
๑๖๖. ปัญหะพฺยากะระเณ เฉโก เมตตาฌานะระโต ยะติ
โสปาโกปายะสัมปันโน สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๖๗. เขตตะสัมปัตติสัมปัตโต วัฑฒะมาโนวะ โสตถินา
สุมะโน อะระหา ชาโต สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๖๘. ปิโย เทวะมะนุสสานัง สานุตเถโร พะหุสสุโต
เมตตาฌายี ตะโมฆาตี สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๖๙. โย จะ ปุพเพ กะตัง ปาปัง กุสะ เลนะ ปะหียะติ
อังคุลิมาโล โส เถโร สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๗๐. วิปัสสะนาธะรา เยปิ เถรา สะมะถะยานิกา
ขีณาสะวา มะหาเตชา มะหาตะมะวิโนทะนา.
๑๗๑. ฌานิกาฌานิกา เยปิ ธัมมาภิสะมะยาทะโย
สัพเพ โสตถิง สะทา เทนตุ ชะยะมาโรคฺยะมายุโน

พระเถรีชั้นผู้ใหญ่ ๑๓ รูป
๑๗๒. รัตตัญญูณัง ภิกขุนีนัง โคตะมี ชินะมาตุจฉา
ฐะปิตา อัคคัฏฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๗๓. มะหาปัญญานะมัคคัฏฐา เขมาเถรีติ ปากะฏา
สาวิกา พุทธะเสฏฐัสสะ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๗๔. เถรี อุปปะละวัณณา จะ อิทธิมันตีนะ มุตตะมา
สาวิกา พุทธะเสฏฐัสสะ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๗๕. วินะยัทธะรีนัง อัคคา ปะฏาจาราติ วิสสุตา
ฐะปิตา อัคคัฏฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๗๖. ธัมมะกะถิกะปะวะรา ธัมมะทินนาติ นามิกา
ฐะปิตา อัคคัฏฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๗๗. ฌายิกานัง ภิกขุนีนัง นันทา เภรีติ นาเมสา
อัคคัฏฐาเน ฐิตา อะหุ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๗๘. อารัทธะวีริยานัง อัคคา โสณาเถรีติ นามิกา
ฐะปิตา ตัตถะ ฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๗๙. ทิพพะจักขุกานัง อัคคา พะกุลา อิติ วิสสุตา
วิสุทธะนะยะนา สาปิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๘๐. กุณฑะละเกสี ภิกขุนี ขิปปาภิญญานะมุตตะมา
ฐะปิตาเยวะ ฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๘๑. เถรี ภัททะกาปิลานี ปุพพะชาติมะนุสสะรี
ตาสังเยวะ ภิกขุนีนัง อัคคา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๘๒. เถรี ตุ ภัททะกัจจานา มะหาภิญญานะมุตตะมา
ชิเนนะ สุขะทุกขัง สา สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๘๓. ลูขะจีวะระธารีนัง อัคคา กิสาปิ โคตะมี
ฐะปิตา อัคคัฏฐานัมหิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๑๘๔. สิงคาละมาตา ภิกขุนี สัทธาธิมุตตานะ มุตตะมา
กะโรนตุโน มะหาสันติง อาโรคะยัญจะ สุขัง สะทา.
๑๘๕. อัญญา ภิกขุนิโย สัพพา นานาคุณะธะรา พะหู
ปาเลนตุ โน สัพพะภะยา โสกะโรคาทิสัมภะวา.
๑๘๖. โสตาปันนาทะโย เสกขา สัทธาปัญญาสีลาทิกา
ภาคะโส เกลสะทะหะนา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.

พญานาค
๑๘๗. สุมะโน สุมะนะจะโล อะระวาเฬระปัตตะโก
จัมเปยโย มุจะลินโท จะ กัมพะโล ภุชะคิสสะโร.
๑๘๘. กาละนาโค มะหากาโฬ สังขะปาโล มะโหทะโร
มะณิกัณโฐ มะณิอัคขิ นันทะนาโคปะนันทะโก.
๑๘๙. วะรุโณ ธะตะรัฏโฐ จะ กุงคุวิโล ปะลาละโก
จิตฺระนาโค มะหาวีโร ฉัพฺยาปุตโต จะ วาสุกี.
๑๙๐. กัณหาโคตะโม ภุชะนินโท อัคคิธูมะสิโข ตะถา
จูโฬทะโร อะหิจฉัตโต นาคา เอราปะถาทะโย.
๑๙๑. อาสิวิสา โฆระวิสา เย สัพเพ นะยะนาวุธา
ชะลัฏฐา วะ ถะลัฏฐา วา ปัพพะ เตยยา นะทีจะรา
กะโรนตุ โน มะหาโสตถิง อายุมาโรคิยัง สะทา.
เปรต
๑๙๒. นิชฌามะตัณหิกา เปตา อุสุสัตติ จะ โลมะกา
มังสะปิณฑาทะโย เปตา เปตา เวมานิกาทะโย
ปาเลนตุ โน สัพพะภะยา สะทา เต สุขิโน สะทา.
อสูร
๑๙๓. เย ปะหาราทะสัมพะรา พะละยาสุระคะณา จะ เย
เวปะจิตตาสุระคะณา จันทาสุระคะณาทะโย.
๑๙๔. สัพเพ เตปิ มหาเตชา ภูตะยักขะนิวาระณา
กะโรนตุ โน มะหาโสตถิง อาโรคะยัญจะ ชะยัง สะทา.
เทวดา
๑๙๕. เย ยักขา สัตตะสะหัสสา ภุมมา กาปิละวัตถุกา
อิทธิมันโต ชุติมันโต วัณณะวันโต ยะสัสสสิโณ.
๑๙๖. สัพเพ ติสะระณา ยักขา มะเหสักขา ชุตินธะรา
กะโรนตุ โน มะหาโสตถิง อาโรคะยัญจะ ชะยัง สะทา.
๑๙๗. ฉะสะหัสสา เหมะวะตา ยักขา นานัตตะวัณณิโน
พุทธะปูชายะ นิระตา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๑๙๘. สาตาคิรา ติสะหัสสา ยักขา นีลาทิวัณณิโน
นานาปะภายะ สัมปันนา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๑๙๙. เวสสามิตตา ปัญจะสะตา ยักขา นานัตตะวัณณิโน
อิทธิมันโต ชุติมันโต วัณณะวันโต ยะสัสสิโณ
โมทะมานา อะภิกกามุง สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๐๐. กุมภีโร ราชะคะหิโก เวปุลลัสสะนิเวสะนัง
ภิยโย นัง สะตะสะหัสสัง ยักขานัง ปะยิรุปาสะติ
โส ยักเขหิ ปะริวาโร สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๐๑. ปุริมัญจะ ทิสัง ราชา ธะตะรัฏโฐ ปะสาสะติ
คันธัพพานัง อะธิปะติ มะหาราชา ยะสัสสิ โส.
๒๐๒. ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา
โส ราชา สะหะ ปุตเตหิ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๐๓. ทักขินัญจะ ทิสัง ราชา วิรุฬโห ตัง ปะสาสะติ
กุมภัณฑานัง อะธิปะติ มะหาราชา ยะสัสสิ โส.
๒๐๔. ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา
วิรุฬโห สะหะ ปุตเตหิ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๐๕. ปัจฉิมัญจะ ทิสัง ราชา วิรูปักโข ปะสาสะติ
นาคานัญจะ อะธิปะติ มะหาราชา ยะสัสสิ โส.
๒๐๖. ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา
วิรูปักโข สะปุสเตหิ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๐๗. อุตตะรัญจะ ทิสัง ราชา กุเวโร ตัง ปะสาสะติ
ยักขานัญจะ อะธิปะติ มะหาราชา ยะสัสสิ โส.
๒๐๘. ปุตตาปิ ตัสสะ พะหะโว อินทะนามา มะหัพพะลา
กุเวโร สะหะ ปุตเตหิ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๐๙. ปุริมัง ทิสัง ธะตะรัฏโฐ ทักขิเณนะ วิรุฬหะโก
ปัจฉิเมนะ วิรูปักโข กุเวโร อุตตะรัง ทิสัง.
๒๑๐. จัตตาโร เต มะหาราชา สะมันตา จะตุโร ทิสา
ทัททัฬหะมานา อัฏฐังสุ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๑๑. เตสัง มายาวิโน ทาสา อาคุง วัญจะนิกา สะฐา
มายา กุเฏณฑุ เวเฏณฑุ วิตุจจะ วิตุโฏ สะหะ.
๒๑๒. จันทะโน กามะเสฏโฐ จะ กินนุฆัณฑุ นิฆัณฑุ จะ
ปะนาโท โอปะมัญโญ จะ เทวะสูโต จะ มาตะลิ.
๒๑๓. จิตตะเสโน จะ คันธัพโพ นะโฬราชา ชะโนสะโภ
วะโร ปัญจะสิโข เจวะ ติมพะรู สุริยะวัจฉะสา.
๒๑๔. เอเต จัญเญ จะ ราชาโน คันธัพพา จะ มะหัพพะลา
โมทะมานา สะทา โสตถิง โน กะโรณตุ อะนามะยัง.
๒๑๕. มะหันตา นาคะสา นาคา เวสาลา สะหะ ตัจฉะกา
กัมพะลัสสะตะรา จาปิ เมรูปาทะสิตา พะลา.
๒๑๖. ยามุนา ธะตะรัฏฐา จะ สัพเพ นาคา ยะสัสสิโน
เอราวะโณ มะหานาโค โน กะโรณตุ อานามะยัง.
๒๑๗. มะหิทธิกา สุปัณณา เย นาคะราเช มะหัพพะเล
คะเหตตะวา ชินะเขตเตวะ ปักขันทิงสุ นะเภ พะลา.
๒๑๘. ปะฐัพฺยาโป จะเตโช จะ วาโย เทวา มะหิทธิกา
อุปะจาเรนะ นิพพัตตา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๑๙. วะรุณา วาระณา เทวา โสโม จะ ยะสะสา สะหะ
เมตตาการุณิกา สัพเพ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๒๐. ปัณณาสะโยชะนายาเม วิมาเน ระตะนามะเย
ฐิโต ตะเม วิหันตะวานะ สุริโย โสตถิง กะโรตุ โน.
๒๒๑. จันโท สีตะกะโร โลเก ปะภายุชชะลิโตทะโย
มะหันธะการะวิทธังสิ สะทา โสตถิง กะโรตุ โน.
๒๒๒. เวณฑู จะ สะหัสสี เทวา อะสะมา จะ ทุเว ยะมา
จันทัสสูปะนิสา เทวา เทวาสูริยะนิสสิตา
พุทธัสสะ มามะกา สัพเพ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๒๓. นักขัตตานิ ปุรักขิตฺวา เทวา มันทะวะลาหะกา
สักโก ปุรินทะโท เสฏโฐ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๒๔. มะหันตา สะหะภู เทวา ชะละมัคคิสิขาริวะ
อะริฏฐะกา จะ โรชา จะ อุมาปุปผะนิภาสิโน.
๒๒๕. วะรูณา สะหะธัมมา จะ อัจจุตา จะ อะเนชะกา
สุเลยยะรุจิรา เทวา เทวา วาสะวะเนสิโน
ทะเสเต ทะสะธา กายา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๒๖. สะมานา มะหาสะมานา มานุสา มานุสุตตะมา
ขิฑฑาปะโทสิกา เทวา เทวา มะโนปะโทสิกา.
๒๒๗. อะถาปิ หะระโย เทวา เทวา โลหิตะวาสิโน
ปะระคา มะหาปาระคา สัพเพ เทวา ยะสัสสิโน
ทะเสเต ทะสะธา กายา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๒๘. สุกกา กะรุมหา อะรุณา อาคุง เวฆะนะสา สะหะ
โอทาตะคัยหา ปาโมกขา อาคุง เทวา วิจักขะณา.
๒๒๙. สะทามัตตา หาระคะชา มิสสะกา จะ ยะสัสสิโน
ถะยะนัง อาคะปัชชุนโน โย ทิสาสะวะภิวัสสะติ.
๒๓๐. ทะเสเต ทะสะธา กายา สัพเพ นานัตตะวัณณิโน
อิทธิมันโต ชุติมันโต วัณณะวันโต ยะสัสสิโน
โมทะมานา ชินะทานา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๓๑. โลกะธาตุสะหัสเสสุ ทะสะเสววะ สะมันตะโต
เทวาทะโย ปาณะคะนา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๓๒. เขมิยา กัฏฐะกายา จะ โชตินามา มะหิทธิกา
ลัมพีตะกา ลามะเสฏฐา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๓๓. ชะลัฏฐา จะ ถะลัฏฐัญเญ เทวากาสัฏฐะกาทะโย
ยักขะคันธัพพะกุมภัณฑา ปิสาจา เย มะโหระคา
เมตตะจิตตา จะ สัพเพ เต โสตถิง ผาสุง กะโรนตุ โน.
๒๓๔. ตาวะติงสา จะ เย เทวา ยามา เทวา มะหิทธิกา
ตุสิตา จะ มะหา เทวา นิมมานะระติโนมะรา.
๒๓๕. วะสะวัตตีสุ ระติโน สัพเพ เทวา สะวาสะวา
พุทธะปูชายะ นิระตา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.

พรหม
๒๓๖. พฺรัหฺมาโน ปาริสัชชา จะ เย จะ พฺรัหฺมะปุโรหิตา
มะหาพฺรัหฺมา จะ สัพเพ เต ปะฐะมัชฌานะสัณฐิโน.
๒๓๗. เมตตาวิหาริโน สันตา สัมพุทธัสสะ ปะรายะนา
กะโรนตุ โน มะหาโสตถิง เสกขาเสกขะปุถุชชะนา.
๒๓๘. ปะริตตาภัปปะมาณาภา พฺรัหฺมา จาภัสสะรา ตะถา
พุทธะปูชายะ นิระตา ทุติยัชฌานะสัณฐิโน.
๒๓๙. เมตตาการุณิกา สัพเพ สัพพะสัตตะหิเตสิโน
กะโรนตุ โน มะหาสันติง โสตถิมาโรคฺยะมายุวัง.
๒๔๐. ปะริตตะสุภาพฺรัหฺมาโน อัปปะมาณะสุภา จะ เย
สุภะกิณหา จะ พฺรัหฺมาโน ตะติยัชฌานะสัณฐิโน.
๒๔๑. ปะภายะ ผะระณา โลเก พุทธะฌานะระตา สะทา
อะหิงสา สัพพะสัตเตสุ สะทา สันติง กะโรนตุ โน.
๒๔๒. เวหัปผะลาปิ พฺรัหฺมาโน จะตุถถัชฌานะสัณฐิโน
เสกขะปุถุชชะนาเสกขา สะทา สันติง กะโรนตุ โน.
๒๔๓. สัมปัตติยา นะ หายันติ พฺรัหฺมาโน ชินะสาวะกา
อะวิหานามะกา สัพเพ สะทา สันติง กะโรนตุ โน.
๒๔๔. อะตัปปา นามะ พฺรัหฺมาโน จะตุถถัชฌานะสัณฐิโน
พฺรัหฺมะวิหาริกา สัพเพ โสตถิง ผาสุง กะโรนตุ โน.
๒๔๕. สุทัสสา นามะ พฺรัหฺมาโน ภิรูปา ฌานะโภคิโน
อะปุนาคะมะนา กาเม สันติง ผาสุง กะโรนตุ โน.
๒๔๖. พฺรัหฺมะวิหาระสัมปันนา ชินะภัตติปะรายะนา
พฺรัหฺมาโน สุทัสสี นามะ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๔๗. อะกะนิฏฐา จะ พฺร้หฺมาโน เชฏฐา สัพพะคุเณหิ จะ
ปะหีนะภะวะนิเสนหา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๔๘. ปะฐะมารูปะพฺรัหฺมาโน สัพพะรูปะวิราคิโน
ชินะภัตติระตา สัพเพ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๔๙. ทุติยารูปะพฺรัหฺมาโน เหฏฐาฌานะวิราคิโน
ชินะภัตติระตา สัพเพ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๕๐. ตะติยารูปะพฺรัหฺมาโน เหฏฐาฌานะวิราคิโน
ชินะภัตติระตา สัพเพ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๕๑. จะตุตถารูปะพฺรัหฺมาโน เหฏฐาฌานะวิราคิโน
ชินะภัตติระตา สัพเพ สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.

บุคคลประเภทรวม
๒๕๒. เวเทเหปะระโคยาเน ชัมพูทีเป กุรุมหิ จะ
เทวะยักขะปิสาเจหิ สัทธิง วิชชาธะราทะโย.
๒๕๓. อากาสัฏฐา จะ พฺรัหฺมาโน ชะลัฏฐา จันตะลิกขะชา
ทะวิปะทาทะโย เย สัตตา สะทา โสตถิง กะโรนตุ โน.
๒๕๔. มาระเสนะวิฆาตัสสะ ชินัสสะ สุขะฌายิโน
เตโชพะเลนะ มะหะตา สะทา มังคะละมัตถุ โน.
๒๕๕. นานาคุณะวิจิตตัสสะ รูปะกายัสสะ สัตถุ โน
สัพพะเทวะมะนุสสานัง มาระพันธะวิโมจิโน
เมตตาพะเลนะ มะหะตา สะทา มังคะละมัตถุ โน.
๒๕๖. สัพพัยญุตาทิกายัสสะ ธัมมะกายัสสะ สัตถุโน
จักขาทะยะโคจะรัสสาปิ โคจะรัสเสวะ ภูริยา
เตโชพะเลนะ มะหะตา สัพพะ มังคะละมัตถุ โน.
๒๕๗. รูปะกายะสะทิสัสสะ นิมมิตัสสะ มะเหสิโน
ธัมมัสสะ วัตตุโน สัคเค เทวานัง สุคะตา ปะติ
เตโชพะเลนะ มะหาตา สะทา มังคะละมัตถุ โน.
๒๕๘. สิกขิตฺวา มานุเส เทเว โมจะวิตฺวา สะเทวะเก
สังขาเร ปะชะหันตัสสะ นิพพุตัสสะ มะเหสิโน
มหันเตนานุภาเวนะ สัพพะ มังคะละมัตถุ โน.
๒๕๙. จะตุราสีติสะหัสสะ ธัมมักขันธัสสะ เตชะสา
นะวังคะสาสะนัสสาปิ นะวะโลกุตตะรัสสะ จะ
สัพพะปาปะปะวาเหนะ สัพพะ มังคะละมัตถุ โน.
๒๖๐. มะหะโตริยะสังฆัสสะ ปัญญักเขตตัสสะ ตาทิโน
ปะหีนะสัพพะปาปัสสะ สีลาทิกขันธะธาริโณ
มะหาเตชานุภาเวนะ สัพพะ มังคะละมัตถุ โน.
๒๖๑. ปาตาเล ภูตะลากาเส เทวะยักขะปิสาจะกา
วิชชาธะรา จะ คันธัพพา นาคะกุมภัณฑะรักขะสา
สัพเพสะมานุภาเวนะ สัพพะ มังคะละมัตถุ โน.

อานุภาพของอุปปาตะสันติ
๒๖๒. อิจเจวะมุปปาตะสันติง โย วะเทยยะ สุเณยยะ วา
วิเชยยะ สัพพะปาปานิ วุทธัตตัญจะ ภะวิสสะติ.
๒๖๓. โสตถิกาโม ละเภ โสตถิง สุขะกาโม สุขังละเภ
อายุกาโม ละเภยยายุง ปุตตะกาโม ละเภปุตตัง.
๒๖๔. นะ ตัสสะ โรคา พาเธนติ วาตะปิตตาทิสัมภะวะ
อะกาละมะระณัง นัตถิ นะ เทโว วิสะโมสะเร.
๒๖๕. นะ จุปปาตะภะตัง ตัสสะ ดนปี ปัตตะภะยัง ตะถา
นัสสันติ ทุนนิมิตตานิ ปาปะกัมมัฏฐิตานิ จะ
ทีฆะมายุ มะหาโสตถิง อาโรคฺยัญจะ สะทา ภะเว.
๒๖๖. โย สุตฺวาปิ มะหาสันติง สังคามัง ปะวิเส นะโร
วิชะเย เวริโน สัพเพ นะ สัตเถหะยะภิภูยะเต.
๒๖๗. สัพพะทา ละภะเต ปิติง นะวิปัตติง นาวะคาหะติ
โรเคหิ นาภิภูยะเต สะวัตถูหิ วิวัฑฒะเต.
๒๖๘. ยัตฺระ เทเส วะโกวะกา พาฬหะกา รักขะสาทะโย
อุปปาตะสันติโฆเสนะ สัพเพ ตัตถะ สะมันติ เต.
๒๖๙. ยะมุททิสสะ วะเท สันติง สะชีวัญจาปะยะชีวิตัง
โส มุจจะเต มะหาทุกขา ปัปโปติ สุคะติง สะทา.
๒๗๐. เทวัฏฐาเน นาคะเร วา นิจจะมุปปาตะสันติยา
ปาละกา เทวะราชาโน เตชะสิรีวิวัฑฒะนา.
๒๗๑. ปะถะพะยาปาทิสัญชาตา อุปปาตา จันตะลิกขะชา
อินทาทิชะนิตุปปาตา ปาปะกัมมะสะมุฏฐิตา
สัพพุปปาตา วินัสสันติ เตชะสุปปาตะสันติ.
อุปปาตะสันติ นิฏฐิตาฯ

จบอุปปาตะสันติ